วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

MS จะเลิกซัพพอร์ต Win XP SP2

..........ไมโครซอฟท์ประกาศเลิกซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการ Windows XP SP2 และ Windows 2000 โดยจะไม่ออกอัพเดตใดๆ ให้กับโอเอสสองตัวนี้อีกต่อไป ซึ่งนั่นหมายความว่า หากมีการพบช่องโหว่ใดๆ หลังจากวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ผู้ใช้จะต้องรับผิดชอบตัวเอง Wilson Xavier ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ Windows Client ของไมโครซอฟท์กล่าวว่า "ผู้เขียนมัลแวร์ยังคงไม่หยุดที่จะตั้งเป้าโจมตีระบบปฎิบัติการ Windows XP ซึ่งไมโครซอฟท์กำลังจะเลิกอัพเดตไดรเวอร์ ตลอดจนอุดช่องโหว่ต่างๆ แล้ว (ปกติจะออกอัพเดตให้ทุกๆ วันอังคารที่สองของเดือน) ดังนั้นผู้ใช้อาจจะเสี่ยงต่อการโดนโจมตีจากผู้ไม่หวังดีเหล่านี้มากขึ้น"


.........."พีซีที่ติดไวรัสในองค์กรจะถูกตั้งค่าการทำงานโดยเหล่าวายร้ายไซเบอร์ด้วยมัลแวร์ที่ถูกส่งผ่านเข้าไปในเครือข่าย หรือในรูปของบอตเน็ตที่อยู่ในพีซีที่ติดไวรัสเครื่องอื่นๆ เพื่อใช้ในการส่งสแปม ขโมยข้อมูล ตลอดจนฉกบัญชีผู้ใช้ธนาคาออนไลน์" Wilson กล่าว Windows XP ได้ชื่อว่าเป็นโอเอสที่แข็งแรง และปลอดภัย อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกสูงถึง 63% ตามด้วย Vista 21% และ Windows 7 อีก 9.4% อย่างไรก็ดี Wilson แนะนำวิธีที่ง่าย และเร็วที่สุดก็คือ อัพเกรดเป็น Service Pack 3 หรือไม่ก็เปลียนไปใช้ Windows 7 แต่การอัพเกรดเป็น Windows XP SP3 จริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากมันไม่สามารถอัพเกรดจาก XP ผู้ใช้จะต้องลงใหม่ การย้ายไป Windows 7 ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ในขณะที่เปลี่ยนไปใช้ SP3 จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผู้ใช้ XP จะไม่มีทางเลือก เพราะหากไม่อัพเกรดไปใช้ SP3 หรือ Windows 7 ก็ไม่ปลอดภัยแน่นอน สุดท้ายต้องไม่ลืมว่า ไมโครซอฟท์จะสิ้นสุดการสนับสนุน Windows XP โดยสมบูรณ์ในวันที่ 8 เมษายน 2014

>
ข้อมูลจาก: gulfnews

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

MS แพตช์ฉุกเฉินสกัดไวรัสเจาะ Win7


..........ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศเตรียมออกแพตช์ฉุกเฉินก่อนกำหนดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่ออุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นจากวิธีจัดการกับไฟล์ shortcut ของ Windows ที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน หลังจากพบว่า ช่องโหว่ดังกล่าวมีการใช้ในแพร่ไวรัสอย่างแพร่หลาย


..........เริ่มต้นจากการที่ช่องโหว่การจัดการชอร์ทคัตของ Windows ถูกนำไปใช้ในการแพร่กระจายหนอน Stuxnet ผ่านทางยูเอสบีไดรฟ์ ซึ่งมันทำงานได้กับ Windows ทุกเวอร์ชันรวมถึง Windows 7 ด้วย โดยโค้ดไวรัสจะถูกสั่งรันผ่านชอร์ทคัตไฟล์ที่มีนามสกุล .lnk ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้เคยออก Fix It เพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกโจมตี ล่าสุดมีการโจมตีโดยใช้ช่องโหว่ของไฟล์ .lnk อีกแล้วด้วยไวรัสที่มีชื่อว่า Sality.AT ซึ่งแพร่กระจายเร็วกกว่าหนอน Stuxnet มาก ข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยในบล็อกของ Microsoft Malware Protection Center

.........."นอกจาก Sality จะสามารถติดไปกับไฟล์ต่างๆ ได้แล้ว มันยังก็อปปี้ตัวเองไปกับสื่อบันทึกข้อมูลอย่างเช่น ยูเอสบีไดรฟ์ อีกทั้งยังสามารถยกเลิกการทำงานของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ก่อนที่จะดาวน์โหลดมัลแวร์ตัวอื่นๆ เข้าไปถล่มเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ได้อีกด้วย" สถานการณ์ของการโจมตีผ่านทางช่องโหว่ดังกล่าวรุนแรงมากพอจนกระทั่งไมโครซอฟท์ต้องตัดสินใจออกแพตช์ฉุกเฉิน แทนที่จะรอให้ถึงอังคารที่สองของเดือน หรือวันที่ 10 สิงหาคม ตามกำหนด "สองสามวันก่อนหน้านี้ เราพบว่า มันมีความพยายามในการใช้ช่องโหว่ดังกล่าวมากขึ้น" Christopher Budd ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ โพสต์ข้อความดังกล่าวในบล็อก "เรามั่นใจว่า อัพเดตที่ออกมาก่อนกำหนด เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยปกป้องลูกค้าของเรา"

>
ข้อมูลจาก: pcmag


ฮาร์ดดิสก์"ลบ"ข้อมูลตัวเองเมื่อถูกขโมย


..........โตชิบา (Toshiba) เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สำหรับใช้กับฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) ของทางบริษัท โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถเข้ารหัสข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้เอง (SED, Self-Encrypting Drive) และเพื่อปัองกันข้อมูลสำคัญไม่ให้ใครสามารถขโมยไปได้ มันยังสามารถลบข้อมูลบนดิสก์ได้เองโดยอัตโนมัติอีกด้วย
.

..........Wipe เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์สามารถลบข้อมูลที่อยู่ในตัวมันได้เองโดยอัตโนมัติ ภายใต้เงื่อนไขฮาร์ดดิสก์ถูกถอดออกจากเครื่อง หรือเมื่อปิดสวิทช์ (ปิดปุ๊บหายปั๊บ) ความลับของเทคโนโลยีนี้ก็คือ ข้อมูลที่เข้ารหัสทั้งหมดในฮาร์ดดิส์กจะยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ถูกลบแต่ประการใด หากแต่ฮาร์ดดิสก์จะสร้างกุญแจระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้ใช้ในการเข้ารหัสขึ้นมาแทน ไม่มีกุญแจถอดรหัสที่ถูกต้อง ก็เท่ากับข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ไม่มีความหมาย หรือเปรียบได้กับการลบทิ้งไปแล้ว ซึ่งเทคโนโลยี Wipe จะมีประโยชน์มากในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ถูกขโมยออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์
.
..........เจ้าของฮาร์ดดิสก์สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ในการลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ให้สะอาด เมื่อส่งคืนให้กับบริษัที่เช่าเครื่องมา หรือขายต่อเครื่องให้กับเพื่อน ตลอดจนมอบให้พี่น้องในครอบครัวเอาไปใช้เลย แต่ต้องการให้ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เป็นความลับตลอดกาล นอกจากนี้ เทคโนโลยี Wipe ยังสามารถใช้กับเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย โดยเมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ถูกถอดปลั๊ก หรือปลดออกจากเครือข่าย ข้อมูลของคุณที่ถูกจัดเก็บไว้ในเครื่องจะถูกลบไป (ไม่มีกุญแจดิจิตอลที่ใช้เปิดอ่านขึ้นมาได้) ทันที

>
ข้อมูลจาก: nexus404

รอยเปื้อนนิ้วมือบนมือถือเผยรหัสผ่าน




..........เชื่อไหมครับว่า รหัสผ่าน (password) บนอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสสามารถโจรกรรมได้ง่ายมาก เพียงแค่มีรอยนิ้วมือมันๆ ของคุณ กล้อง และคอมพิวเตอร์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ รอยเปื้อนของนิ้วมือบนหน้าจอสัมผัสสามารถเปิดเผย password ของคุณได้นั่นเอง!!!

..........นักวิจัยจากเพนซิลวาเนียเปิดเผยในรายงานฉบับหนึ่งระหว่างการประชุม Usenix Security โดยระบุว่า รูปแบบการกดรหัสผ่าน(บนอุปกรณ์หน้าจอสัมผัส) สามารถถ่ายขึ้นมาด้วยกล้อง และตรวจสอบกลับได้จากรอยเปื้อนของนิ้วมือมันๆ บนหน้าจอด้วยวิธีปลดล็อครูปแบบ (pattern unlock method) บนคอมพิวเตอร์ "หน้าจอสัมผัส เมื่อถูกสัมผัส มันจะรอยเปื้อนมันๆ ของนิ้วมือตกค้างอยู่บนหน้าจอ ซึ่งมันสามารถส่งผลกระทบข้างเคียงที่หลายคนไม่ได้ให้ความสนใจ" ข้อความในรายงาน "รอยเปื้อนนิ้วมือเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการค้นหารูปแบบการสัมผัสของผู้ใช้ครั้งล่าสุด และบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อย ซึ่งใช้เป็นร่องรอยในการเก็บข้อมูล (พาสเวิร์ด) ได้"

..........นักวิจัยได้เจาะจงลงไปที่มือถือ Android เนื่องจาก OS ตัวนี้ใช้วิธีจดจำรูปแบบการลากนิ้ว (pattern-tracing method) บนหน้าจอสัมผัสในการล็อค และปลดล็อคอุปกรณ์ ซึ่งในการเข้าถึงระบบผู้ใช้จะต้องลากนิ้วที่สัมผัสบนหน้าจอระหว่าง 4 จุด โดยทีมวิจัยเปิดเผยว่า ด้วยวิธีนี้ทำให้พวกเขาสามารถถอดรหัสการเข้าถึงด้วยความถูกต้องแม่นยำ 92% โดยถ่ายรูปหน้าจอ และปรับคอนทราส เพื่อดึงลายนิ้วมันๆ ที่ตกค้างเป็นแพทเทิร์นบนหน้าจอสัมผัสนั้นๆ ทางทีมเรียกวิธีโจมตีแบบนี้ว่า "smudge attack" ทั้งนี้แฮคเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่แอบถ่ายหน้าจอมือถือของเหยื่อด้วยกล้อง และเปิดไฟล์ขึ้นมาปรับ contrast บนคอมพิวเตอร์
.
..........
ในรายงานยังระบุอีกด้วยว่า เจ้าของสมาร์ทโฟนควรจะทำความสะอาดหน้าจอบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดตามร่องรอยการกดผ่านลายนิ้วมือมันๆ ที่ตกค้างไว้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเจ้าของมือถือแอนดรอยด์เท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้ป้องกันจากอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสอื่นๆ ได้ด้วยอย่างเช่น ตู้เอทีเอ็ม ระบบป้อนหมายเลข PIN และอื่นๆ อีกมากมาย ทีมวิจัยเปิดเผยว่า รอยนิ้วมือที่ตกค้างบนหน้าจอเป็นแค่วิธีหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ในการโจมตีอุปกรณ์หน้าจอระบบสัมผัส เพราะความจริงมันยังมีวิธีอื่นๆ อีกอย่างเช่น การตรวจจับความร้อนที่เกิดจากนิ้วมือส่งผ่านไปบนหน้าจอสัมผัส (กล้องตรวจจับอุณหภูมิที่แตกต่างสามารถเก็บภาพลายนิ้วมือที่เกิดขึ้นบนหน้าจอครั้งล่าสุดได้ไม่ยาก) เป็นต้น

>
ข้อมูลจาก: dailytech

คีย์บอร์ดไร้สายบลูทูธ"เล็ก"เท่านามบัตร


..........ในขณะที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเลือกมือถือที่มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส (touch screen) แต่คีย์บอร์ดที่มีลักษณะเป็นปุ่มสัมผัสก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสาวก BB ที่ถนัดกับการพิมพ์ด้วยแป้นพิมพ์ขนาดเล็ก วันนี้กองบรรณาธิการ arip ก็มีแก็ดเจ็ต (Gadget) มาฝากเป็นคีย์บอร์ดไร้สายบลูทูธทีมีขนาดเล็กเท่านามบัตรพกพาสะดวก สาวก BB ใช้ได้โดยไม่ต้องฝืนความรู้สึกแต่อย่างใด




..........EFO คีย์บอร์ดไร้สายที่มีขนาดเล็กเท่านามบัตรนี้ ไม่เพียงแต่จะมีดีไซน์คล้ายคีย์บอร์ดบนมือถือ BB เท่านั้น แต่มันยังเป็นคีย์บอร์ด QWERTY ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน F1-F12 ปุ่ม CTRL, ALT, DEL ตลอดจนปุ่มฟังก์ชันสำหรับเล่นมัลติมีเดียบนคอมพิวเตอร์อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะใช้กับพีซีได้แล้ว มันยังใช้ได้กับ iPad และ iPhone สำหรับใครที่ถนัดการพิมพ์บน BB คงอยากมีไว้ใช้สักอัน สนนราคาจองอยู่ที่ 32 เหรียญฯ (ประมาณ 1,000 บาท) ราคาวางตลาดในเดือนกันยายนจะขยับเป็น 40 เหรียญฯ (ประมาณ 1,300 บาท)

>
ข้อมูลจาก: EFO

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Internet




..........เข้าสู่ปีที่ 49 ของ Internet แล้ว มันช่างรวดเร็วเสียจริงๆ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมไปทั่วโลกได้ช่วยให้มวลมนุษยชาติสามารถค้นพบข้อมูลข่าวสารที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส มันช่างมหัศจรรย์มากๆ ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลกใบนี้ก็สามารถศึกษา MBA Online ได้ แม้สถาบันแห่งนั้นจะไม่มีตึกอาคารใหญ่โตก็ตาม

..........ในวาระที่ย่างเข้าสู่ขวบวัยที่ 49 ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า Internet เทียบได้เท่ากับวัยรุ่นเท่านั้น ในอนาคตอินเทอร์เน็ตจะยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์ความรู้ของมนุษย์ ตลอดจนการดำเนินชีวิตที่จะเปลียนไปจากนี้อีกมากมายเกินคาดเดา ถึงวันนี้หลายคนที่เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอาจจะยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ในอดีตของมันเลยด้วยซ้ำ อย่างเช่น Spam ฉบับแรกเกิดขึ้นมาตั้งแต่ 32 ปีที่แล้ว หรือเราสามารถสั่ง Pizza ได้ตั้งแต่ปี 94 หรือ 16 ปีที่แล้ว และเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เพื่อเป็นการย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Internet แบบสั้นๆ วันนี้เว็บไซต์ arip ก็เลยนำเอา Infographic ประวัติ Internet มาฝากครับ รับรองว่า คุณผู้อ่านต้องไม่ทราบเรื่องราวในหลายๆ เหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างแน่นอน



>



ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

Firefox 4 beta 4 เพิ่มลูกเล่นใหม่เจ๋งสุดๆ


..........และแล้ว มอสซิลล่า (Mozilla) ก็ได้ออกบราวเซอร์ Firefox 4 รุ่นทดสอบตัวที่ 4 ออกมายั่วน้ำลายผู้ใช้กันอีกแล้ว ซึ่งนอกจากจะมีการแก้ไขข้อผิดพลาด และปรับปรุงการทำงานให้มีสเถียรภาพดีขึ้นแล้ว ในเวอร์ชันทดสอบรุ่นล่าสุดยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพ และลูกเล่นใหม่ๆ ของการทำงานที่น่าสนใจอีกด้วย


..........Firefox 4 beta 4 จะทำงานด้วยกลไกเว็บ Gecko 2.0 และมาพร้อมกับลูกเล่นสำหรับการใช้งานที่น่าสนใจ แถมยังเพิ่มคุณสมบัติ Sync และ Panorama เป็นมาตรฐานของบราวเซอร์อีกด้วย ซึ่งนวตกรรมเหล่านี้จะทำให้ Firefox 4 เป็นบราวเซอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการปรับแต่งการทำงานของบราวเซอร์ โดยเฉพาะการใช้งานบุ๊คมาร์คที่สะดวกขึ้น และง่ายต่อการเปิดหน้าเว็บด้วยแท็บ (tab)
.
..........
Mozilla มองว่า Sync ควรจะเป็นมาตรฐานสำหรับบราวเซอร์ Firefox ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ผู้ใช้จะสามารถกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ ป้อนพาสเวิร์ด เปิดแท็บ ตลอดจนบุ๊คมาร์คได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รวมถึงสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับเน็ต นั่นหมายความว่า ผู้ใช้จะต้องเชื่อใจว่า ข้อมูลที่ให้ทาง Mozilla ดูแลให้นั้นจะปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวเหมือนที่ผู้ใช้ทั่วโลกเชื่อ Facebook อย่างไรก็ดี Mozilla ให้สัญญาว่า ข้อมูลทั้งหมดจะได้รับการเข้ารหัส การทำให้ Sync เป็นคุณสมบัติมาตรฐานในบราวเซอร์ ถือว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของความพยายามทำให้ Firefox เป็นบราวเซอร์หลักของผู้ใช้ด้วยการเสนอความสะดวกง่ายดาย และคล่องตัว แลกกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้
.
..........
ในส่วนของการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ทางบริษัทกล่าวว่า ได้พัฒนาให้การตอบสนองการทำงานของบราวเซอร์ดีขึ้น อีกทั้งยังได้ปรับปรุงความสามารถในการเลื่อนหน้าเว็บที่มีปัญหาว่า บางครั้งภาพในหน้าเว็บไม่เลื่อนตามไปด้วย รวมถึงระบบป้องกันการล่มการทำงานในกรณีที่ปลั๊กอิน Adobe Flash, Apple Quicktime หรือ Microsoft Silverlight เกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน
.
..........
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Panorama ที่ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Candy Tabs ซึ่งทางเว็บไซต์ arip ได้เคยนำเสนอไปแล้วมาใส่ในเวอร์ชันทดสอบนี้ด้วย Panorama จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดแบ่งกลุ่มแท็บด้วยการแสดงมุมมองแบบกริด (grid view) ของหน้าเว็บต่างๆ ที่เปิดขึ้นด้วยขนาดของธัมบ์เนลล์ตามที่ต้องการ ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นได้พร้อมๆ กัน โดยผู้ใช้สามารถเลือกคลิก เพื่อเปิดหน้าเว็บที่สนใจให้เต็มจอได้ทันที ลองดูคลิปการทำงานข้างล่างนี้แล้วจะเข้าใจการทำงานของ Panorama มากขึ้นครับ
.
..........
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การสนับสนุนการใช้งานภาษาต่างๆ ซึ่งในเวอร์ชันนี้จะมีภาษาของอินเตอร์เฟซให้เลือกถึง 40 ภาษา อีกทั้งยังสนับสนุน HTML5 video และ CSS transition ที่ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนคุณสมบติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรนเตอร์กราฟิกเร็วขึ้นด้วย Direct2D สำหรับเวอร์ชันบน Windows ก็มีให้ลองใช้ใน Firefox 4 beta 4 ด้วยเหมือนกัน แต่ฟังก์ชันนี้จะปิดการทำงานที่ดีฟอลต์ ผู้ใช้ต้องเข้าไปเปิดการทำงานก่อนนะครับ

>
ข้อมูลจาก: theregister