วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

MS จะเลิกซัพพอร์ต Win XP SP2

..........ไมโครซอฟท์ประกาศเลิกซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการ Windows XP SP2 และ Windows 2000 โดยจะไม่ออกอัพเดตใดๆ ให้กับโอเอสสองตัวนี้อีกต่อไป ซึ่งนั่นหมายความว่า หากมีการพบช่องโหว่ใดๆ หลังจากวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ผู้ใช้จะต้องรับผิดชอบตัวเอง Wilson Xavier ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ Windows Client ของไมโครซอฟท์กล่าวว่า "ผู้เขียนมัลแวร์ยังคงไม่หยุดที่จะตั้งเป้าโจมตีระบบปฎิบัติการ Windows XP ซึ่งไมโครซอฟท์กำลังจะเลิกอัพเดตไดรเวอร์ ตลอดจนอุดช่องโหว่ต่างๆ แล้ว (ปกติจะออกอัพเดตให้ทุกๆ วันอังคารที่สองของเดือน) ดังนั้นผู้ใช้อาจจะเสี่ยงต่อการโดนโจมตีจากผู้ไม่หวังดีเหล่านี้มากขึ้น"


.........."พีซีที่ติดไวรัสในองค์กรจะถูกตั้งค่าการทำงานโดยเหล่าวายร้ายไซเบอร์ด้วยมัลแวร์ที่ถูกส่งผ่านเข้าไปในเครือข่าย หรือในรูปของบอตเน็ตที่อยู่ในพีซีที่ติดไวรัสเครื่องอื่นๆ เพื่อใช้ในการส่งสแปม ขโมยข้อมูล ตลอดจนฉกบัญชีผู้ใช้ธนาคาออนไลน์" Wilson กล่าว Windows XP ได้ชื่อว่าเป็นโอเอสที่แข็งแรง และปลอดภัย อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกสูงถึง 63% ตามด้วย Vista 21% และ Windows 7 อีก 9.4% อย่างไรก็ดี Wilson แนะนำวิธีที่ง่าย และเร็วที่สุดก็คือ อัพเกรดเป็น Service Pack 3 หรือไม่ก็เปลียนไปใช้ Windows 7 แต่การอัพเกรดเป็น Windows XP SP3 จริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากมันไม่สามารถอัพเกรดจาก XP ผู้ใช้จะต้องลงใหม่ การย้ายไป Windows 7 ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ในขณะที่เปลี่ยนไปใช้ SP3 จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผู้ใช้ XP จะไม่มีทางเลือก เพราะหากไม่อัพเกรดไปใช้ SP3 หรือ Windows 7 ก็ไม่ปลอดภัยแน่นอน สุดท้ายต้องไม่ลืมว่า ไมโครซอฟท์จะสิ้นสุดการสนับสนุน Windows XP โดยสมบูรณ์ในวันที่ 8 เมษายน 2014

>
ข้อมูลจาก: gulfnews

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

MS แพตช์ฉุกเฉินสกัดไวรัสเจาะ Win7


..........ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศเตรียมออกแพตช์ฉุกเฉินก่อนกำหนดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่ออุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นจากวิธีจัดการกับไฟล์ shortcut ของ Windows ที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน หลังจากพบว่า ช่องโหว่ดังกล่าวมีการใช้ในแพร่ไวรัสอย่างแพร่หลาย


..........เริ่มต้นจากการที่ช่องโหว่การจัดการชอร์ทคัตของ Windows ถูกนำไปใช้ในการแพร่กระจายหนอน Stuxnet ผ่านทางยูเอสบีไดรฟ์ ซึ่งมันทำงานได้กับ Windows ทุกเวอร์ชันรวมถึง Windows 7 ด้วย โดยโค้ดไวรัสจะถูกสั่งรันผ่านชอร์ทคัตไฟล์ที่มีนามสกุล .lnk ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้เคยออก Fix It เพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกโจมตี ล่าสุดมีการโจมตีโดยใช้ช่องโหว่ของไฟล์ .lnk อีกแล้วด้วยไวรัสที่มีชื่อว่า Sality.AT ซึ่งแพร่กระจายเร็วกกว่าหนอน Stuxnet มาก ข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยในบล็อกของ Microsoft Malware Protection Center

.........."นอกจาก Sality จะสามารถติดไปกับไฟล์ต่างๆ ได้แล้ว มันยังก็อปปี้ตัวเองไปกับสื่อบันทึกข้อมูลอย่างเช่น ยูเอสบีไดรฟ์ อีกทั้งยังสามารถยกเลิกการทำงานของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ก่อนที่จะดาวน์โหลดมัลแวร์ตัวอื่นๆ เข้าไปถล่มเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ได้อีกด้วย" สถานการณ์ของการโจมตีผ่านทางช่องโหว่ดังกล่าวรุนแรงมากพอจนกระทั่งไมโครซอฟท์ต้องตัดสินใจออกแพตช์ฉุกเฉิน แทนที่จะรอให้ถึงอังคารที่สองของเดือน หรือวันที่ 10 สิงหาคม ตามกำหนด "สองสามวันก่อนหน้านี้ เราพบว่า มันมีความพยายามในการใช้ช่องโหว่ดังกล่าวมากขึ้น" Christopher Budd ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ โพสต์ข้อความดังกล่าวในบล็อก "เรามั่นใจว่า อัพเดตที่ออกมาก่อนกำหนด เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยปกป้องลูกค้าของเรา"

>
ข้อมูลจาก: pcmag


ฮาร์ดดิสก์"ลบ"ข้อมูลตัวเองเมื่อถูกขโมย


..........โตชิบา (Toshiba) เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สำหรับใช้กับฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) ของทางบริษัท โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถเข้ารหัสข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้เอง (SED, Self-Encrypting Drive) และเพื่อปัองกันข้อมูลสำคัญไม่ให้ใครสามารถขโมยไปได้ มันยังสามารถลบข้อมูลบนดิสก์ได้เองโดยอัตโนมัติอีกด้วย
.

..........Wipe เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์สามารถลบข้อมูลที่อยู่ในตัวมันได้เองโดยอัตโนมัติ ภายใต้เงื่อนไขฮาร์ดดิสก์ถูกถอดออกจากเครื่อง หรือเมื่อปิดสวิทช์ (ปิดปุ๊บหายปั๊บ) ความลับของเทคโนโลยีนี้ก็คือ ข้อมูลที่เข้ารหัสทั้งหมดในฮาร์ดดิส์กจะยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ถูกลบแต่ประการใด หากแต่ฮาร์ดดิสก์จะสร้างกุญแจระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้ใช้ในการเข้ารหัสขึ้นมาแทน ไม่มีกุญแจถอดรหัสที่ถูกต้อง ก็เท่ากับข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ไม่มีความหมาย หรือเปรียบได้กับการลบทิ้งไปแล้ว ซึ่งเทคโนโลยี Wipe จะมีประโยชน์มากในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ถูกขโมยออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์
.
..........เจ้าของฮาร์ดดิสก์สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ในการลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ให้สะอาด เมื่อส่งคืนให้กับบริษัที่เช่าเครื่องมา หรือขายต่อเครื่องให้กับเพื่อน ตลอดจนมอบให้พี่น้องในครอบครัวเอาไปใช้เลย แต่ต้องการให้ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เป็นความลับตลอดกาล นอกจากนี้ เทคโนโลยี Wipe ยังสามารถใช้กับเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย โดยเมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ถูกถอดปลั๊ก หรือปลดออกจากเครือข่าย ข้อมูลของคุณที่ถูกจัดเก็บไว้ในเครื่องจะถูกลบไป (ไม่มีกุญแจดิจิตอลที่ใช้เปิดอ่านขึ้นมาได้) ทันที

>
ข้อมูลจาก: nexus404

รอยเปื้อนนิ้วมือบนมือถือเผยรหัสผ่าน




..........เชื่อไหมครับว่า รหัสผ่าน (password) บนอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสสามารถโจรกรรมได้ง่ายมาก เพียงแค่มีรอยนิ้วมือมันๆ ของคุณ กล้อง และคอมพิวเตอร์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ รอยเปื้อนของนิ้วมือบนหน้าจอสัมผัสสามารถเปิดเผย password ของคุณได้นั่นเอง!!!

..........นักวิจัยจากเพนซิลวาเนียเปิดเผยในรายงานฉบับหนึ่งระหว่างการประชุม Usenix Security โดยระบุว่า รูปแบบการกดรหัสผ่าน(บนอุปกรณ์หน้าจอสัมผัส) สามารถถ่ายขึ้นมาด้วยกล้อง และตรวจสอบกลับได้จากรอยเปื้อนของนิ้วมือมันๆ บนหน้าจอด้วยวิธีปลดล็อครูปแบบ (pattern unlock method) บนคอมพิวเตอร์ "หน้าจอสัมผัส เมื่อถูกสัมผัส มันจะรอยเปื้อนมันๆ ของนิ้วมือตกค้างอยู่บนหน้าจอ ซึ่งมันสามารถส่งผลกระทบข้างเคียงที่หลายคนไม่ได้ให้ความสนใจ" ข้อความในรายงาน "รอยเปื้อนนิ้วมือเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการค้นหารูปแบบการสัมผัสของผู้ใช้ครั้งล่าสุด และบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อย ซึ่งใช้เป็นร่องรอยในการเก็บข้อมูล (พาสเวิร์ด) ได้"

..........นักวิจัยได้เจาะจงลงไปที่มือถือ Android เนื่องจาก OS ตัวนี้ใช้วิธีจดจำรูปแบบการลากนิ้ว (pattern-tracing method) บนหน้าจอสัมผัสในการล็อค และปลดล็อคอุปกรณ์ ซึ่งในการเข้าถึงระบบผู้ใช้จะต้องลากนิ้วที่สัมผัสบนหน้าจอระหว่าง 4 จุด โดยทีมวิจัยเปิดเผยว่า ด้วยวิธีนี้ทำให้พวกเขาสามารถถอดรหัสการเข้าถึงด้วยความถูกต้องแม่นยำ 92% โดยถ่ายรูปหน้าจอ และปรับคอนทราส เพื่อดึงลายนิ้วมันๆ ที่ตกค้างเป็นแพทเทิร์นบนหน้าจอสัมผัสนั้นๆ ทางทีมเรียกวิธีโจมตีแบบนี้ว่า "smudge attack" ทั้งนี้แฮคเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่แอบถ่ายหน้าจอมือถือของเหยื่อด้วยกล้อง และเปิดไฟล์ขึ้นมาปรับ contrast บนคอมพิวเตอร์
.
..........
ในรายงานยังระบุอีกด้วยว่า เจ้าของสมาร์ทโฟนควรจะทำความสะอาดหน้าจอบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดตามร่องรอยการกดผ่านลายนิ้วมือมันๆ ที่ตกค้างไว้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเจ้าของมือถือแอนดรอยด์เท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้ป้องกันจากอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสอื่นๆ ได้ด้วยอย่างเช่น ตู้เอทีเอ็ม ระบบป้อนหมายเลข PIN และอื่นๆ อีกมากมาย ทีมวิจัยเปิดเผยว่า รอยนิ้วมือที่ตกค้างบนหน้าจอเป็นแค่วิธีหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ในการโจมตีอุปกรณ์หน้าจอระบบสัมผัส เพราะความจริงมันยังมีวิธีอื่นๆ อีกอย่างเช่น การตรวจจับความร้อนที่เกิดจากนิ้วมือส่งผ่านไปบนหน้าจอสัมผัส (กล้องตรวจจับอุณหภูมิที่แตกต่างสามารถเก็บภาพลายนิ้วมือที่เกิดขึ้นบนหน้าจอครั้งล่าสุดได้ไม่ยาก) เป็นต้น

>
ข้อมูลจาก: dailytech

คีย์บอร์ดไร้สายบลูทูธ"เล็ก"เท่านามบัตร


..........ในขณะที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเลือกมือถือที่มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส (touch screen) แต่คีย์บอร์ดที่มีลักษณะเป็นปุ่มสัมผัสก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสาวก BB ที่ถนัดกับการพิมพ์ด้วยแป้นพิมพ์ขนาดเล็ก วันนี้กองบรรณาธิการ arip ก็มีแก็ดเจ็ต (Gadget) มาฝากเป็นคีย์บอร์ดไร้สายบลูทูธทีมีขนาดเล็กเท่านามบัตรพกพาสะดวก สาวก BB ใช้ได้โดยไม่ต้องฝืนความรู้สึกแต่อย่างใด




..........EFO คีย์บอร์ดไร้สายที่มีขนาดเล็กเท่านามบัตรนี้ ไม่เพียงแต่จะมีดีไซน์คล้ายคีย์บอร์ดบนมือถือ BB เท่านั้น แต่มันยังเป็นคีย์บอร์ด QWERTY ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน F1-F12 ปุ่ม CTRL, ALT, DEL ตลอดจนปุ่มฟังก์ชันสำหรับเล่นมัลติมีเดียบนคอมพิวเตอร์อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะใช้กับพีซีได้แล้ว มันยังใช้ได้กับ iPad และ iPhone สำหรับใครที่ถนัดการพิมพ์บน BB คงอยากมีไว้ใช้สักอัน สนนราคาจองอยู่ที่ 32 เหรียญฯ (ประมาณ 1,000 บาท) ราคาวางตลาดในเดือนกันยายนจะขยับเป็น 40 เหรียญฯ (ประมาณ 1,300 บาท)

>
ข้อมูลจาก: EFO

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Internet




..........เข้าสู่ปีที่ 49 ของ Internet แล้ว มันช่างรวดเร็วเสียจริงๆ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมไปทั่วโลกได้ช่วยให้มวลมนุษยชาติสามารถค้นพบข้อมูลข่าวสารที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส มันช่างมหัศจรรย์มากๆ ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลกใบนี้ก็สามารถศึกษา MBA Online ได้ แม้สถาบันแห่งนั้นจะไม่มีตึกอาคารใหญ่โตก็ตาม

..........ในวาระที่ย่างเข้าสู่ขวบวัยที่ 49 ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า Internet เทียบได้เท่ากับวัยรุ่นเท่านั้น ในอนาคตอินเทอร์เน็ตจะยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์ความรู้ของมนุษย์ ตลอดจนการดำเนินชีวิตที่จะเปลียนไปจากนี้อีกมากมายเกินคาดเดา ถึงวันนี้หลายคนที่เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอาจจะยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ในอดีตของมันเลยด้วยซ้ำ อย่างเช่น Spam ฉบับแรกเกิดขึ้นมาตั้งแต่ 32 ปีที่แล้ว หรือเราสามารถสั่ง Pizza ได้ตั้งแต่ปี 94 หรือ 16 ปีที่แล้ว และเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เพื่อเป็นการย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Internet แบบสั้นๆ วันนี้เว็บไซต์ arip ก็เลยนำเอา Infographic ประวัติ Internet มาฝากครับ รับรองว่า คุณผู้อ่านต้องไม่ทราบเรื่องราวในหลายๆ เหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างแน่นอน



>



ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

Firefox 4 beta 4 เพิ่มลูกเล่นใหม่เจ๋งสุดๆ


..........และแล้ว มอสซิลล่า (Mozilla) ก็ได้ออกบราวเซอร์ Firefox 4 รุ่นทดสอบตัวที่ 4 ออกมายั่วน้ำลายผู้ใช้กันอีกแล้ว ซึ่งนอกจากจะมีการแก้ไขข้อผิดพลาด และปรับปรุงการทำงานให้มีสเถียรภาพดีขึ้นแล้ว ในเวอร์ชันทดสอบรุ่นล่าสุดยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพ และลูกเล่นใหม่ๆ ของการทำงานที่น่าสนใจอีกด้วย


..........Firefox 4 beta 4 จะทำงานด้วยกลไกเว็บ Gecko 2.0 และมาพร้อมกับลูกเล่นสำหรับการใช้งานที่น่าสนใจ แถมยังเพิ่มคุณสมบัติ Sync และ Panorama เป็นมาตรฐานของบราวเซอร์อีกด้วย ซึ่งนวตกรรมเหล่านี้จะทำให้ Firefox 4 เป็นบราวเซอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการปรับแต่งการทำงานของบราวเซอร์ โดยเฉพาะการใช้งานบุ๊คมาร์คที่สะดวกขึ้น และง่ายต่อการเปิดหน้าเว็บด้วยแท็บ (tab)
.
..........
Mozilla มองว่า Sync ควรจะเป็นมาตรฐานสำหรับบราวเซอร์ Firefox ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ผู้ใช้จะสามารถกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ ป้อนพาสเวิร์ด เปิดแท็บ ตลอดจนบุ๊คมาร์คได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รวมถึงสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับเน็ต นั่นหมายความว่า ผู้ใช้จะต้องเชื่อใจว่า ข้อมูลที่ให้ทาง Mozilla ดูแลให้นั้นจะปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวเหมือนที่ผู้ใช้ทั่วโลกเชื่อ Facebook อย่างไรก็ดี Mozilla ให้สัญญาว่า ข้อมูลทั้งหมดจะได้รับการเข้ารหัส การทำให้ Sync เป็นคุณสมบัติมาตรฐานในบราวเซอร์ ถือว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของความพยายามทำให้ Firefox เป็นบราวเซอร์หลักของผู้ใช้ด้วยการเสนอความสะดวกง่ายดาย และคล่องตัว แลกกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้
.
..........
ในส่วนของการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ทางบริษัทกล่าวว่า ได้พัฒนาให้การตอบสนองการทำงานของบราวเซอร์ดีขึ้น อีกทั้งยังได้ปรับปรุงความสามารถในการเลื่อนหน้าเว็บที่มีปัญหาว่า บางครั้งภาพในหน้าเว็บไม่เลื่อนตามไปด้วย รวมถึงระบบป้องกันการล่มการทำงานในกรณีที่ปลั๊กอิน Adobe Flash, Apple Quicktime หรือ Microsoft Silverlight เกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน
.
..........
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Panorama ที่ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Candy Tabs ซึ่งทางเว็บไซต์ arip ได้เคยนำเสนอไปแล้วมาใส่ในเวอร์ชันทดสอบนี้ด้วย Panorama จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดแบ่งกลุ่มแท็บด้วยการแสดงมุมมองแบบกริด (grid view) ของหน้าเว็บต่างๆ ที่เปิดขึ้นด้วยขนาดของธัมบ์เนลล์ตามที่ต้องการ ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นได้พร้อมๆ กัน โดยผู้ใช้สามารถเลือกคลิก เพื่อเปิดหน้าเว็บที่สนใจให้เต็มจอได้ทันที ลองดูคลิปการทำงานข้างล่างนี้แล้วจะเข้าใจการทำงานของ Panorama มากขึ้นครับ
.
..........
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การสนับสนุนการใช้งานภาษาต่างๆ ซึ่งในเวอร์ชันนี้จะมีภาษาของอินเตอร์เฟซให้เลือกถึง 40 ภาษา อีกทั้งยังสนับสนุน HTML5 video และ CSS transition ที่ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนคุณสมบติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรนเตอร์กราฟิกเร็วขึ้นด้วย Direct2D สำหรับเวอร์ชันบน Windows ก็มีให้ลองใช้ใน Firefox 4 beta 4 ด้วยเหมือนกัน แต่ฟังก์ชันนี้จะปิดการทำงานที่ดีฟอลต์ ผู้ใช้ต้องเข้าไปเปิดการทำงานก่อนนะครับ

>
ข้อมูลจาก: theregister

ตู้ถ่ายรูปช่วยรีทัชให้คุณดู"ตาโต"หน้าใส


..........รายการ Mezashi TV ในญี่ปุ่นได้นำเสนอตู้ถ่ายรูป (photo booth) ชื่อว่า Print Club (Purikura) ซึ่งสาวๆ ส่วนใหญ่จะชอบตู้ถ่ายรูปมาก เนื่องจากมันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สามารถทำให้ใบหน้าดูเนียนเรียบ และใสสว่างขึ้น แต่ล่าสุดมันได้พัฒนาคุณสมบัติการทำงานใหม่เพิ่มเข้าไปที่นอกจากจะทำให้หน้าใสขึ้นแล้ว มันยังทำให้ตาของคุณโตขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

..........สำหรับความสามารถในการปั้นแต่งให้คุณดูสวย (beautifying) แต่ในตู้ถ่ายรูปรุ่นใหม่จะทำให้คุณดู"น่ารัก"กว่าเดิม ด้วยการทำให้ตาของคุณโตขึ้นจนดูคล้ายกับลูกตาของการ์ตูน แต่จะว่าไป เจ้าตู้ถ่ายรูปรุ่นใหม่นี้น่าจะทำให้คุณดูคล้ายมนุษย์ต่างดาวมากกว่า อย่างไรก็ตาม พิธีกรสาวได้ทดลองนำภาพโมนาลิซ่าเข้าไปให้กล้องในตู้แชะออกมา ปรากฎว่า ภาพถ่ายที่ได้ทำให้โมนาลิซ๋าดูน่ารักคิขุกว่าเดิมมากทีเดียว
.
..........
อย่างไรก็ตาม เมื่อทางรายการสอบถามหนุ่มๆ เกี่ยวกับภาพถ่ายของผู้หญิง โดยเปรียบเทียบตัวจริงกับภาพใบหน้าที่ได้จากตู้ถ่ายรูป purikura ประมาณครึ่งหนึ่งของหนุ่มๆ ชอบเวอร์ชันเดิมที่ไม่ได้มีการทำ"ตาโต"มากกว่า ข้อสังเกตคือ การเกิดของตู้ถ่ายรูปแบบนี้แสดงว่า สาวๆ ญี่ป่นต้องการให้ตัวเธอดูขาวใส หรือไม่ก็ดูคล้ายตัวการ์ตูน อย่างไรก็ตาม ทางรายการไม่ได้สรุปว่า สาวๆ ชอบแบบไหนกันแน่ แต่พวกเธอคิดว่า การที่มีตาโตจะทำให้ดูน่ารักกว่าเดิม ส่วนคุณสมบัตรีทัชให้หน้าใสสว่างจะช่วยลบสิว รอยเหี่ยวย่น และตำหนิบนใบหน้าที่บั่นทอนความน่ารักของพวกเธอลงไป แล้วคุณผู้อ่านล่ะ คิดเห็นอย่างไร?
>

ข้อมูลจาก: DailyMotion

Arc Touch เมาส์สัมผัสดัด"โค้ง-งอ"ได้




..........Arc Touch Mouse เป็นเมาส์ไร้สายที่ทำงานด้วยความถี่ 2.4GHz มาพร้อมกับภาครับส่งสัญญาณ USB Nano Transceiver ที่มีรัศมีในการสื่อสารไกลถึง 30 ฟุต ทำงานด้วยแบตเตอรี่ AAA 2 ก้อนอยู่ได้ 6 เดือน จุดเด่นคือ ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะไอเดียของการออกแบบที่ทำให้มันสามารถเปลียนรูปร่างได้ ซึ่งการเปิดสวิทช์เมาส์ให้พร้อมใช้งานจะใช้วิธีดัดมันให้โค้งงอเหมือน Arc Mouse รุ่นแรก แต่เมื่อเลิกใช้ หรือต้องการปิดสวิทช์ เพื่อประหยัดไฟ (และสะดวกพกพา) ก็แค่กดมันให้แบนราบ...ว้าว!!! ส่วนลูกกลิ้งที่อยู่ตรงกลางระหว่างปุ่มทั้งสอง (Scroll Wheel) ก็ถูกเปลี่ยนเป็นระบบสัมผัสแทน และเช่นเคย Arc Touch Mouse มาพร้อมกับเทคโนโลยี BlueTrack ที่มีความแม่นยำสูงกว่าเลเซอร์เพียงอย่างเดียว แถมยังใช้งานบนผิวสัมผัสต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย
.

..........หากสรุปข้อดีและข้อด้อยของ Arc Touch Mouse นอกจากดีไซน์ที่สะดวกใช้งานและพกพาแล้ว ระบบสัมผัสตรงกลางที่ใช้แทนล้อกลิ้งจะมีการสั่น เพื่อให้ผู้ใช้รับรู้ถึงการใช้งาน ตลอดจนระบบเร่งการเลื่อนหน้าจอที่ให้ความคล่องตัวในการท่องเว็บมากขึ้น และเทคโนโลยี BlueTrack ที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกสถานที่ สุดท้ายคือระบบไร้สายที่สามารถใช้ได้ไกล ถือแทนรีโมทพรีเซนต์พาวเวอร์พอยท์ได้เลย ส่วนข้อด้อยก็คือ แพงไปนิด ตรงส่วนแท็บสัมผัสสำหรับเลื่อนหน้าจอหากไม่แตะแรงพอจะไม่ตอบสนอง สนนราคาอยู่ที่ 70 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,400 บาท

>


ข้อมูลจาก: Microsoft

เทคโนโลยีจอแสดงผลในปี 2014


..........ช่วงก่อนเลิกงานวันนี้ กองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip ก็มีจินตนาการทางด้านเทคโนโลยีจะแสดงผลมาฝากกันครับ ภายใตัหัวเรื่องว่า "Future of Screen Technology" เป็นการนำเสนอคลิปวิดีโอที่สร้างสรรค์โดย TAT (The Astonishing Tribe) บริษัทดีไซน์ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ในสวีเดนที่มักจะมีคลิปไอเดียเด็ดๆ ออกมาโชว์กันอยู่เสมอ

...........สำหรับเทคโนโลยีจอแสดงผลแห่งอนาคตภายใต้แนวคิดของพวกเขาที่มองว่า ในปี 2014 จอแสดงผลที่จะเป็นพระเอกในยุคนั้นจะประกอบด้วยจอที่ยืดหดได้ (Stretchable screen) จอชนิดโปร่งใส (Transparent screen) มองทะลุผ่านไปยังฝั่งตรงข้ามได้ แม้ในขณะแสดงข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอ (หรือกระจก) และ e-Ink ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะทำงาน และแน่นอนที่สุด จอเหล่านี้ใช้ระบบสัมผัสที่ทำให้คุณจับต้อง และแบ่งปัน (share) ข้อมูลได้ตามที่ต้องการ ดูแล้วเป็นไปได้สูงที่ในปี 2014 เราจะได้มีโอกาสใช้งานจอในลักษณะนี้บ้างเหมือนกัน

>

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ระวัง! แฮคเกอร์กำลังใช้ช่องโหว่ PDF

..........อะโดบี้ (Adobe) ออกมายืนยันแล้วว่า แฮคเกอร์กำลังปล่อยโค้ดอันตราย โดยใช้ช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข นั่นหมายความว่า ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ Acrobat และ Reader โปรแกรมสำหรับการสร้าง แก้ไข และเปิดอ่านไฟล์ PDF ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีจากแฮคเกอร์ได้
.
...........สำหรับการใช้ช่องโหว่ที่พบตามรายงานข่าวระบุว่า แฮคเกอร์ใช้เทคนิคฟิชชิ่ง (Phishing) ด้วยอีเมล์ที่ใช้หัวข้อว่า "David Leadbetter's One Point Lesson" ซึ่งมาพร้อมกับไฟล์แนบ PDF ที่แฝงโค้ดอันตรายมาด้วย "ช่องโหว่ร้ายแรงที่แฮคเกอร์นำไปใช้ในการโจมตีขณะนี้จะเป็นข้อผิดพลาดของการทำงานที่พบอยู่ใน Adobe Reader 9.3.4 และเวอร์ชันก่อนหน้านี้ที่ทำงานบน Windows, Macintosh และ UNIX และ Adobe Acrobat 9.3.4 (เวอร์ชันก่อนหน้านี้ด้วย) สำหรับรุ่นที่ทำงานบน Windows และ Macintosh" ข้อความแจ้งเตือนผู้ใช้ที่ปรากฎในบอร์ดของบริษัท
"การใช้ช่องโหว่ CVE-2010-2883 จะสามารถทำให้ระบบล่ม และเปิดโอกาสให้ผู้บุกรุกสามารถเข้าควบคุมการทำงานของระบบที่ได้รับผลกระทบได้ ซึ่งทางบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการประเมินกำหนดการอัพเดต เพื่อแก้ปัญหานี้" ในขณะที่ Adobe ยังไม่สามารถกำหนดวันที่จะออกแพตช์อุดช่องโหว่ดังกล่าวได้ Secunia บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยได้ยกให้ระดับความรุนแรงของบั๊กเป็นระดับวิกฤติสูงสุด "ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบนี้จะอยู่ใน Adobe Reader ซึ่งสามารถใช้ในการโจมตีโดยผู้ไม่หวังดีได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากมันเป็นข้อผิดพลาดของกลไกการส่งผ่านฟอนต์ของ CoolType.dll ที่สามารถทำให้มันเกิด buffer overflow ได้ เพียงแค่หลอกให้ผู้ใช้เปิดไฟล์ PDF ที่ได้รับการดัดแปลงมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ"

.
..........
ข้อมูลจาก: pcmag

วิธีการใช้ Internet Banking อย่างไรให้ปลอดภัย


............1. อุดรูรั่วบนวินโดวส์ให้เรียบร้อยด้วยการเรียก Windows Update ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องคุณจะใช้วินโดวส์ของแท้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นรูรั่วทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยของวินโดวส์ไมโครซอฟท์จะยอมให้คุณดาวน์โหลดได้เต็มที่

............2. เปิดใช้ Firewall ในวินโดวส์ทุกเวอร์ชันจะมีไฟรวอลล์มาให้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าการเปิดไฟร์วอลล์จะทำให้เครื่องทำงานช้าลงอะไรมากมาย เพราะไฟรวอลล์ที่มาพร้อมกับวินโดวส์เวอร์ชันใหม่ได้มีการปรับปรุงเรื่องนี้ไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของไฟร์วอลล์ที่มีอยู่ในวินโดวส์ก็เทียบกับบริษัทที่ทำเรื่อง Security มาโดยเฉพาะ อย่าง Kaspersky, Symantec และ Trend Micro ไม่ได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดควรจะใช้ชุดซอฟต์แวร์ประเภท Internet Security Suite เพราะไฟร์วอล์ที่อยู่ในชุดจะทำงานประสานกับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่อยู่ในชุดได้ดีกว่า แต่ถ้าคุณอยากใช้ของฟรีก็แนะนำ Comodo Personal Firewall หรือ PC Tools Firewall Plus ก็ได้เช่นกัน แต่ระวังด้วยเพราะการที่คุณเลือกใช้ซอต์แวร์แอนตี้ไวรัสกับไฟร์วอล์คนละบริษัทมักจะเกิดปัญหาไฟร์วอลล์จะบล็อกไม่ให้แอนตี้ไวรัสให้อัพเดทรายชื่อฐานข้อมูลไวรัสได้

...........3. อัพเดตใช้บราวเซอร์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดอยู่ตลอดเวลา เพราะหลายครั้งที่รูรั่วบนบนบราวเซอร์จะเป็นช่องโหว่ให้แฮกเกอร์เข้ามาเก็บข้อมูลในเครื่องเราได้ ซึ่งทางผู้ผลิตทั้งหลายต่างก็รู้ปัญหานี้จึงออกเวอร์ชันใหม่ออกมาแก้ปัญหาเหล่านี้ ดังนั้นควรใช้บราวเซอร์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดเสมอ โดยเวอร์ชันล่าสุดของบราวเซอร์มีดังนี้
......Internet Explorer 8.0
......Mozilla Firefox 3.6.8
......Opera 10.61
......Google Chrome 5.0.375.126
......Apple Safari 5.0.1
.

..........เชื่อว่าทั้ง 3 ขั้นตอนนี้คงไม่ยากจนเกินไป ลองทำดูกันก่อน ไว้ตอนต่อไป จะมาถึงขั้นตอนการใช้เบราเซอร์อย่างไรในการเริ่มใช้บริการให้ปลอดภัยครับ
.
>
>
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

Sony เผย Google TV ออกปลายปีนี้


...........Google TV รุ่นแรกที่จะวางตลาดจะเป็น Sony Internet HDTV ที่มีหน้าจอขนาด 46 นิ้ว โดยพลังประมวลผลภายในเครื่องจะใช้โพรเซสเซอร์ Intel Atom CE4100 ความเร็ว 1.2GHz ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android และใช้บราวเซอร์ Chrome สนับสนุน Flash 10.1 ซึ่งในการสาธิตที่งาน IFA 2010 โดยคนของ Sony จะมีการแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติการทำงานบางอย่าง เช่น การเล่นวิดีโอ YouTube เกมส์ และวิวไฟล์ภาพจากบริการ Picasa นอกจากนี้ยังมีกล้องค้นไว (quick search box) ซึ่ง Sony TV ที่โชว์ในงานจะเป็นรุ่นทีมีขนาด 40 นิ้ว




...........ชุดทีวีของ Sony จะมีออปชันให้รัน Google TV ซ้อนทับบนรายการทีวีที่เรากำลังชมอยู่ในขณะนั้น แม้ว่า Sony จะเป็นพันธมิตรในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Google TV แต่ในงาน IFA 2010 ก็มี Android TV ของบริษัทผู้ผลิตอีกรายหนึ่ง โดยบริษัทเล็กๆ จากสแกนดิเนเวียชื่อว่า People of Lava ได้พัฒนาให้มันสามารถรันแอพฯ Facebook, YouTube, Google Maps, Mail และ Twitter โดยลำดับต่อจากช่องต่างๆ ของทีวี เนื่องจาก Android เป็นโอเพ่นซอร์ส ดังนั้นใครๆ ก็สามารถเข้าร่วมเกมนี้ได้
>
>
ข้อมูลจาก: fierceonlinevideo

ระวัง!!! หนอนพันธุ์ใหม่"ล็อค"ไฟล์เวิร์ด

..........หนอนดังกล่าวชื่อว่า Clippo.A โดยเจ้าหนอนร้ายตัวนี้จะทำการก็อปปี้ตัวเองด้วยไฟล์ทีมีชื่อว่า PICTURE.EXE และ SOUND.EXE เข้าไปในทุกโฟลเดอร์ในเครื่อง ซึ่งรวมถึงไดรฟ์ภายนอก (พวกยูเอสบีไดรฟ์ก็ด้วย) ตลอดจนแชร์ไดรฟ์บนเน็ตเวิร์กที่ให้สิทธิ์ในการเขียนข้อมูลเข้าไปได้ นอกจากนีมันยังจะมีการทิ้งไฟล์ชื่อ FILE.EXE เข้าไปในรากของไดรฟ์ C: พร้อมทั้งเพิ่มคำสั่ง "load=c:\file.exe" เข้าไปที่รีจิสทรี startup ใน HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows NT\Current\Version\Windows เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว หนอนตัวนี้จะตั้งค่าพาสเวิร์ดในการเข้าถึงไฟล์เอกสาร Word, PowerPoint หรืออีเมล์ใน Outlook ด้วยชุดตัวเลข 721709031350 ใครที่กำลังโดนเล่นงานด้วยอาการลักษณะนี้อยู่ลองใช้พาสเวิร์ดนี้ดูนะครับ
.
..........ส่วนใหญ่โปรแกรมมัลแวร์ที่มีการบล็อคไม่ให้สามารถเข้าถึงไฟล์สำคัญๆ ตลอดจนคุณสมบัติบางอย่างของระบบปฏิบัติการ มักจะมีการขู่ร้องขอเงิน เพื่อให้ได้โปรแกรมแก้ไข หรือรหัสในการปลดล็อค ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ ransomware แต่สำหรับหนอนตัวนี้มันไม่ได้มีการร้องขอเงินแต่อย่างใด "เป้าหมายของหนอนตัวนี้ไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่ต้องการป่วนผุู้ใช้เท่านั้น" นักวิจัยจาก Panda Security ตั้งข้อสังเกต นอกจากนี้ มัลแวร์ส่วนใหญ่ในโลกไซเบอร์มักจะเพ่งเล็งไปที่การขโมยข้อมูล แต่หนอนตัวนี้ก็ไม่ได้มีกลไกการทำงานในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด มันไม่ได้ทำให้ผู้สร้างได้ผลประโยชน์ หรือเงินทองแต่อย่างใดเลย ซึ่งตรงข้ามกับนิสัยมัลแวร์ที่พบกันโดยทั่วไป โชคดีที่ Clippo จะติดได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 2003 และ XP (รวมถึงเวอร์ชันก่อนหน้านี้) ผู้ใช้ที่โดนเล่นงานสามารถลบมันได้จาก registry ที่กล่าวไปข้างต้น และลบไฟล์ c:\file.exe ทางที่ดีควรอัพเดตแอนตี้ไวรัสด้วย
>
>
ข้อมูลจาก: Softpedia

Power Hub อะแดปเตอร์+พอร์ต USB


..........Power Hub เป็นอะแดปเตอร์ 65/95 วัตต์สำหรับโน้ตบุ๊คของ Lenovo แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ มันมาพร้อมกับช่องต่อ USB ถึง 4 พอร์ตด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้อะแดปเตอร์แทน USB Hub ได้ด้วย ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ฟังดูก็เหมือนเป็นแค่นำอุปกรณ์สองอย่างรวมกัน แต่ความจริงต้องบอกว่า Power Hub ไม่ได้ออกแบบมาแค่นั้น แต่มันจะสำรองไว้หนึ่งพอร์ต เพื่อใช้ชาร์จแบตฯให้กับแก็ดเจ็ตอื่นๆ ได้ด้วย โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊ค เพียงแค่เสียบ Power Hub เข้ากับเต้าเสียบปลั๊กไฟในบ้าน จากนั้นเสียบอุปกรณ์ USB ของแก็ดเจ็ตต่างๆ เข้ากับ Power Hub ได้ทันที

.

.........น่าสนใจขนาดนี้ คงต้องมาดูกันที่ราคากันหน่อยดีกว่า Power Hub มีจำหน่ายแล้วบนเว็บไซต์ของ Lenovo สนนราคาอยู่ที่ 75 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,300 บาท อืม...ฟังดูแพงไปนิดหนึ่ง แต่เชื่อว่า หากมันกลายเป็นมาตรฐาน หรือจำหน่ายไปกับโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ของ Lenovo ราคาของมันน่าจะถูกกว่านี้มากทีเดียว นี่ถ้ามีซ็อคเก็ตสำหรับเสียบ iPhone/iPod Touch ด้วยล่ะก็เยี่ยมไปเลย
>
>
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

e-Skin ผิวหนังเสมือนที่ไวต่อความรู้สึก


..........วิศวกรจากมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ในแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ความฝันที่หุ่นยนต์สามารถล้างจานได้ โดยไม่ทำตกแตกเสียก่อนใกล้เป็นจริงขึ้นมาทุกทีแล้ว เมื่อนักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนาผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ (e-skin) ที่รับรู้ความรู้สึกได้ โดยทำจากเซ็นเซอร์ที่มีความยืดหยุ่นรับรู้แรงสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว
.
..........รายงานดังกล่าวเผยแพร่โดย Nature Materials โดยนักวิจัยอธิบายว่า วัสดุที่ใช้ในการพัฒนาผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์จะมีความแข็งแรง และใช้พลังงานต่ำ แถมยังมีคุณสมบัติที่คล้ายผิวหนังมนุษย์อีกด้วย อย่างเช่น ความสามารถในการรู้สึกการสัมผัส นั่นหมายความว่า ผิวหนังเสมือนที่ทำขึ้นนี้จะสามารถต่อเติมความรู้สึกที่ขาดหายไปให้กับผู้ใช้อวัยวะเทียมในอนาคตได้นั่นเอง
.
..........ผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ (e-skin) ทำจากสารกึ่งตัวนำที่เป็นสารอนินทรีย์ลักษณะเป็นผลึกเชิงเดี่ยวโดยทีมวิศวกรที่รวมถึง Ali Javey และ Kuniharu Takei ได้สร้างเส้นลวดขนาดนาโน (nanowires) ขึ้นมาจากเจอเมเนียมและซิลิกอน ลักษณะเป็นทรงกระบอกจากนั้นม้วนมันเข้าไปกับแผ่นฟิล์มโพลีเมอร์บางๆ ซึ่งเส้นลวดเหล่านี้จะจัดวางอย่างปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ได้คือ วัสดุอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความบาง และยืดหยุ่นที่จัดวางตัวในรูปแบบของตารางทรานซิสเซอร์
.
.........ยางที่ไวต่อการรับแรงกดจะซ้อนทับไปบนผิวหนังเทียมที่ประกอบด้วยตารางของเซ็นเซอร์ ทำให้มันสามารถตรวจจับแรงดันได้ตั้งแต่ 0 ถึง 15 ปาสคาล (แม้แมลงตัวเล็กๆ มาเกาะก็ยังรู้สึกได้) เทียบได้กับแรงที่มากพอต่อการหยิบจับวัตถุเบาๆ หรือมีความบอบบาง อย่างเช่น แก้ว ได้โดยมันไม่แตก E-Skin เป็นการพัฒนาของเบิร์กเลย์ร่วมกับเอ็มไอที โดยมี DARPA สนับสุนทางด้านงบประมาณ ซึ่งหากมันสำเร็จตามเป้าหมายมันจะช่วยให้อวัยวะเทียมมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น สำหรับต้นแบบที่ทำขึ้นมาจะมีขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัส 7.6 ตารางนิ้ว ทำงานด้วยแรงดันไฟฟ้าไม่ถึง 5 โวลต์ สามารถรองรับการทำงานได้มากกว่า 2,000 ครั้ง
>
>
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

iPad รุ่นใหม่ใช้ FaceTime ได้กำลังจะมา


..........รายงานข่าวล่าสุด แหล่งข่าววงในจากเว็บไซต์ Apple Insider อ้างว่า iPad รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับกล้องด้านหน้า (front-facing camera) และแอพพลิเคชัน FaceTime ใกล้ถึงกำหนดเปิดตัวแล้ว ซึ่งหากเป็นดังข่าวที่ออกมาจริง มันจะเป็นครั้งแรกที่ Apple ออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ก่อนครบวาระ 12 เดือน

..........แหล่งข่าววงในยังอ้างอีกด้วยว่า iPad ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบระดับสูง ซึ่งหากมีการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ในเร็วๆ นี้จริง มันจะเป็นครั้งแรกที่ Apple ออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ก่อนผลิตภัณฑ์รุ่นแรกจะมีอายุครบหนึ่งปี (iPad เพิ่งทำตลาดได้แค่ 5 เดือนเท่านั้น) ทั้งนี้คาดว่า iPad รุ่นใหม่จะวางตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2011

..........ทางเว็บไซต์อ้างว่า Apple ต้องการที่จะฝังแอพพลิเคชัน FaceTime เข้าไปในอุปกรณ์ iOS ทุกชนิด ก่อนที่จะเปิดตัวให้มันเป็นแอพฯมาตรฐานของการสื่อสารแบบเห็นหน้าบนอุปกรณ์โมบาย ทั้งนี้ FaceTime กำลังกลายเป็นจุดขายสำคัญของอุปกรณ์ที่ใช้ iOS รุ่นใหม่ทั้งหมด สังเกตได้จากการที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ ที่ออกมาจากทาง Apple ไฮไลท์ที่ซอฟต์แวร์ตัวนี้มากเป็นพิเศษ แทนที่จะพูดถึงพัฒนาการของฮาร์ดแวร์ ข่าวนี้อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ iPad อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ iPad รุ่นแรกน่าจะสามารถใช้ FaceTime ได้เหมือนกัน แต่อาจต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างกล้องอีกสักตัวหนึ่ง ในขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy Tab ที่กำลังจะวางตลาดในสหรัฐฯ 15 ก.ย. นี้ นอกจากมันจะมาพร้อมกับกล้องด้านหน้าที่สามารถใช้แอพฯสื่อสารแบบเห็นหน้าได้เหมือน Face Time แล้ว อาจจะมีเซอร์ไพรซ์อะไรให้ติดตามกันอีกก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องของราคาที่ตอนนี้ยังไม่แน่นอน
>
>
ข้อมูลจาก: appleinsider

iWatch จากไอเดียกลายเป็นของจริง!!!



..........จากไอเดียแก็ดเจ็ต (Gadget) ที่มีการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นคือ แนวคิดที่จะเปลี่ยน iPod Nano ให้กลายเป็นนาฬิกาข้อมือ โดยเรียกมันซะใหม่ว่า iWatch ล่าสุดไอเดียดังกล่าวเป็นจริงแล้ว

.
..........
ดีไซน์ของบริษัทแรกชื่อว่า iLoveHandles โดยใช้ชื่อ Rock Band แนวคิดในอการออกแบบก็ง่ายมาก เพียงแค่ทำสายรัดนาฬิกาข้อมือที่มาพร้อมกับรอยเว้าบนสาย โดยเมื่อใช้คลิปที่อยู่ด้านหลังของ iPod Nano หนีบเข้าไปตรงบริเวณนี้ ผลลัพธ์นอกจากจะทำให้ iPod Nano อยู่ตำแหน่งที่เหมาะสมบนสายรัดข้อมือแล้ว มันยังช่วยล็อคตัวเครื่องไม่ให้เลื่อนไปมาอีกด้วย เพียงแค่นี้เจ้าของ iPod Nano รุ่นใหม่ก็ได้นาฬิกาข้อมือที่ใช้ฟังเพลงได้แล้ว สนนราคาอยู่ที่ 19.95 เหรียญฯ หรือประมาณ 680 บาท

.


.........นอกจากจะมีดีไซน์ที่เป็นแค่สายรัดนาฬิกาข้อมือโดยบริษัท Rock Band แล้ว ยังมีดีไซน์ iWatch ของอีกเจ้าหนึ่งชื่อว่า Incipio ซึ่งแทนที่จะออกแบบเป็นแค่สายรัดนาฬิกาข้อมือ บริษัทนี้เลือกที่จะออกแบบเป็นเคสแข็งที่ป้องกัน iPod Nano ไปด้วยพร้อมกัน โดยเรียกมันว่า Linq ซึ่งนอกจากจะทำให้มันดูเหมือนนาฬิกาข้อมือมากขึ้นแล้ว ยังดูสวยงาม และแข็งแรงกว่าอีกด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องราคา และกำหนดวางตลาดของ Linq ออกมาแต่อย่างใด? อีกหนึ่งไอเดียที่ซ่อนอยู่ภายใต้การเปลี่ยน iPod Nano เป็นนาฬิกาข้อมือก็คือ การใช้เครืองเล่น MP3 แทนนาฬิกาไปด้วยในตัวนั่นเอง
>
>
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

IE9 เปิดโลก "เว็บบราวเซอร์" พันธุ์ใหม่


.
.....
บรรดาบริษัทผู้นำเว็บบราวเซอร์ในตลาดได้แก่ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) มอซิลลา (Mozilla) และกูเกิ้ล (Google) เชื่อว่า บราวเซอร์ของทางบริษัทยังคงสามารถร่ายมนต์สะกดให้ผู้ใช้ทั่วโลกใช้เวลากับเว็บได้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้อีก โดยเว็บบราวเซอร์รุ่นใหม่จะเน้น 3 คุณสมบัติหลักของการทำงานอย่างเช่น Internet Explorer 9 ที่สัญญาว่า จะมาพร้อมกับฟังก์ชันสนับสนุนเครือข่ายสังคม Social Networking มากยิ่งขึ้น และระบบการแสดงผลกราฟิกที่ดีกว่าเดิม ตลอดจนความเร็วที่เพิ่มขึ้น ทั้งหมดก็เพื่อให้คุณใช้ชีวิตบนออนไลน์มากขึ้นนั่นเอง
.....มนุษย์เรากำลังอยู่ในยุค"มนุษย์(เสพ)ติดมอนิเตอร์" เหตุผลก็คือ ผู้คนวันนี้ติดการรับข่าวสารเพื่อนๆ จากเฟซบุ๊ค (Facebook) ในที่ทำงานตลอดทั้งวัน บ้างก็ดู YouTube ในขณะที่อีกหลายล้านคนนั่งเลื่่อนหน้าจออยู่ในโลก Twitter และจำนวนไม่น้อยที่อ่านเรื่องราวต่างๆ ทั้งวัน แถมยังชอบส่งต่อคอนเท็นต์สารพัดชนิด รวมถึงคอมเมนต์มันไปซะทุกเรื่อง กิจกรรมเหล่านี้กำลังทำให้ผู้ใช้เน็ตละสายตาจากหน้าจอน้อยลง หรือพูดในทางกลับกันก็คือ นั่งจ้องหน้าจอนานขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง แต่กระนั้นบริษัทผู้พัฒนาเว็บบราวเซอร์ชั้นนำเชื่อว่า ผู้ใช้จะสามารถใช้เวลากับเว็บมากกว่าที่เป็นอยู่ได้อีก หากพวกเขาพัฒนาเว็บบราวเซอร์ให้เก่งขึ้น โดยเฉพาะการตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้เว็บของผู้บริโภคยุคใหม่
.....Microsoft เตรียมจัดงานใหญ่เปิดตัวเวอร์ชัน"ทดสอบ"ของ IE9 ให้กับผู้ใช้ทั่วโลกในวันที่ 15 ก.ย. ในซานฟรานซิสโก โดยมีการอุปมาอุปไมยว่า IE9 จะเป็นตัวแทนของบราวเซอร์ยุคใหม่ที่เปลี่ยนเว็บจากโลกของ"ภาพนิ่ง"ไปสู่โลกแห่ง"ภาพยนต์"ที่มีการเคลื่อนไหวไหลลื่นตื่นเต้นไม่มีที่สิ้นสุด ในขณะที่คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า บราวเซอร์มีลักษณะของช่องทางการรับข้อมูลแบบเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนดูคล้ายกรอบภาพ หรือไม่ก็จอทีวี ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนอกจากคอนเท็นต์ใหม่ๆ "เมื่อคุณคิดถึงเว็บเมื่อ 10 - 15 ปีที่แล้ว มันมีแค่ 2 มิติที่เต็มไปด้วยข้อความกับรูปภาพ" David Ragones ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์จาก Nvidia กล่าว "มันไม่สามารถโต้ตอบได้เหมือนกับเกมส์คอมพิวเตอร์ หรือมีอะไรน่าดึงดูดใหคุณต้องอยู่กับมันมากนัก"
.....แม้บราวเซอร์ IE9 ของไมโครซอฟท์ที่จะเปิดตัววันพุธนี้จะเป็นแค่เวอร์ชันทดสอบ แต่ทางบริษัทก็เชื่อว่า มันจะถูกผู้คนบนเว็บโหลดไปทดลองใช้อย่างท่วมท้น ซึ่งตอนนี้ไมโครซอฟท์กำลังเตรียมการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ โดยปฏิเสธที่จะให้คอมเมนต์ในเรื่องนี้ ส่วนทางด้าน Google ที่มี Chrome เป็นพระเอกก็ดูเหมือนจะไม่หวั่นสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ แต่ก็ตื่นเต้นต่อการที่จะเห็นเว็บบราวเซอร์มีการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งต้องยอมรับว่า ส่วนแบ่งตลาดของ IE ที่หายไป สาเหตุหนึ่งมาจากความนิยมในบราวเซอร์ Chrome ด้วย ในขณะที่ตัวเลขสถิติเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 60% ของผู้ใช้เว็บเลือก IE ตามด้วย Firefox 23% โดยมี Chrome เป็นอันดับ 3 ที่ 8%
.....การแข่งขันของบราวเซอร์ดูจะรุนแรงมากขึ้้น เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างเช่น มาตรฐาน HTML5 และ CSS3 ซึ่งจะเป็นการดึงพลังประมวลผลกราฟิกจากฮาร์ดแวร์ การทำให้คอนเท็นต์ของเว็บมีลูกเล่นในการทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้มากกว่าหน้าเว็บแข็งๆ ในกรอบสี่เหลี่ยมดังเช่นที่ผ่านมา ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นในวันเปิดตัว IE9 คุณสมบัติการทำงานต่างๆ ที่ทำให้ผู้ใช้ได้ใช้ประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์มากขึ้น อย่างเช่น ความสามารถในการลากองค์ประกอบ (Items) ต่างๆ จากหน้าเว็บไปรอบหน้าจอ ข่าวสดที่สามารถป๊อปอัพโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกปุ่ม Refresh ซึ่งทำให้เว็บไซต์ตอบสนองความเคลื่อนไหวของ Social ได้ทันที (คล้าย Notification บน iPhone) บราวเซอร์ยุคใหม่จะมีการทำงานร่วมกันระหว่างบราวเซอร์กับเว็บไซต์มากขึ้น โดยเฉพาะในยุค Social Network เว็บแอพพลิเคชันต่างๆ จะมีความเป็น Social มากขึ้น รวมถึงแอพพลิเคชันที่ต้องติดตั้งใช้งานบนพีซีอย่างเช่น Tweetdeck จะสามารถรันได้จากภายในบราวเซอร์เวอร์ชันใหม่ ซึ่งได้มีการโชว์ให้เห็นแล้วในงานประชุมของ Google
.....นักพัฒนาจะสามารถสร้างแอพฯ เวอร์ชันรันบนบราวเซอร์ แทนการพัฒนาแอพฯหลายครั้ง เพื่อให้รองรับแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย อย่างเช่น Mac และ Linux บราวเซอร์ใหม่จะสามารถเล่นแอนิเมชัน และวิดีโอได้โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ Flash ซึ่งกำลังสร้างความเซ็งให้กับผู้ใช้ iPad วันนี้ เนื่องจากมันไม่สนับสนุน Flash และจากความน่าเบื่อในโลกของภาพ 2D เว็บบราวเซอร์ยุคใหม่จะสนับสนุนประสบการณ์ในการใช้งาน 3D ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้หลากหลายยิ่งขึ้น บราวเซอร์ไม่ใช่แค่พัฒนาให้เร็วขึ้นเท่านั้นอีกต่อไป ทั้งนี้ MS มีแผนที่จะแสดงตัวอย่างที่มีการนำเสนอคอนเท็นต์ที่มาพร้อมลูกเล่นต่างๆ ในงานเปิดตัว IE9 นี้
.....นอกจากนักพัฒนาแอพฯจะตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้ว นักออกแบบเว็บต่างก็กำลังคอยให้ MS ลงมาใช้ HTML5 และ CSS3 ใน IE สักที ในขณะที่ Chrome เริ่มสนับสนุน HTML5 มาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว ผลลัพธ์ทำให้เว็บไซต์ที่ออกแบบโดยใช้ HTML5 จะดูดีใน Chrome แต่ยับเยินบน IE สำหรับ HTML5 เป็นมาตรฐานของภาษาที่ใช้พัฒนาเว็บเพจที่รวมความสามารถในการเล่นวิดีโอ และการลากและวาง (drag and drop) ไอเท็มส์ต่างๆ ในบราวเซอร์ CSS3 เป็นมาตรฐานสำหรับพัฒนาหน้าตาของเว็บให้ได้ดังใจที่ต้องการ IE มีส่วนแบ่งตลาดมากสุด แต่พัฒนาการช้าสุด ดังนั้น IE9 ที่มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด จึงมีความสำคัญต่อแนวโน้มของบราวเซอร์ยุคใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ผู้ใช้รอคอย
>
>
ข้อมูลจาก: pluggd.in

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น

.....แนวคิดสำหรับหุ่นยนต์ทางฝั่งตะวันตกคือ "คนรับใช้"ของมนุษย์ แต่หากเป็นฝั่งตะวันออกมักจะมีลักษณะเป็น "ผู้ช่วย" เลยไปจนถึง"เพื่อน"ของมนุษย์มากกว่า โดยเฉพาะคนสูงอายุในญี่ปุ่น ดังนั้น หุ่นยนต์ทางฝั่งตะวันตกจึงไม่ได้เน้นว่า ต้องมีหน้าตา ขา แขน แต่มีดีไซน์ให้ตอบโจทย์กับงานเป็นสำคัญ หุ่นยนต์ที่กลายเป็นสินค้า และเป็นที่รู้จักกันมานานแล้วตัวหนึ่งนั่นก็คือ Roomba หรือ iRobot หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมทางประเทศฝั่งตะวันออกมากขึ้นเรื่อยๆ
.
.
.....ความจริงหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายจานบิน สามารถเคลื่อนที่ไปตามพื้นห้อง เพื่อดูดฝุ่นได้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ใช่ของใหม่เลย แต่พัฒนาการของมันน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่สามารถตรวจจับขอบบันไดไม่ให้ตัวเองร่วงตกหล่น ไปจนถึงวิ่งเข้าหาที่ชาร์จได้เองเมื่อแบตฯใกล้หมด มาจนถึงในช่วงปีสองปีมานี้ มันได้รับการพัฒนาให้สามารถทำหน้าที่เป็น"ยาม"ไฮเทคได้ด้วย
.....ก่อนหน้านี้ MS800 จาก MSI เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ฉลาดขึ้น สามารถเชื่อมต่อการทำงานผ่านบลูทูธ (ใช้มือถือควบคุมได้) แถมยังมีเว็บแคมในตัวทำให้มันสามารถเป็นยามสอดส่องดูแลความเรียบร้อยในห้องนอนลูกๆ แทนคุณได้อีกต่างหาก ล่าสุด Samsung กระโดดเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้เหมือนกัน โดยอัพเกรด VC-PL62W ให้เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกล้องติดมาด้วยเช่นกัน โดยสามารถดูดฝุ่นไปพร้อมกับตรวจตราไปรอบๆ ห้องให้กับคุณด้วย จุดเด่นของ VC-PL62W ก็คือ คุณสามารถติดตามดูวิดีโอจากกล้องของมันจากที่ไหนก็ได้ โดยสามารถตั้งให้มันส่งภาพวิดีโอไปยังคอมพิวเตอร์ หรือมือถือของคุณก็ได้ สำหรับหุ่นดูดฝุ่นและยามรักษาความปลอดภัยรุ่นนี้จะวางจำหน่ายในเกาเหลีใต้ สนราคาอยู่ที่ 799,000 วอน หรือประมาณ 21,100 บาท
...
.

.
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

การก้าวสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้


ความรู้ คืออะไร

...........ตอบ -เป็นขั้นแรกของพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการจดจำ ความรู้ เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการเรียนรู้ ประกอบไปด้วยคำจำกัดความหรือความหมาย ข้อเท็จจริง ทฤษฎี กฎ โครงสร้าง วิธีการแก้ไขปัญหา และมาตรฐานเป็นต้น
...................-ความรู้เป็นเรื่องของการจำอะไรได้ ระลึกได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดที่ซับซ้อนหรือใช้ความสามารถของสมองมากนัก
...................-เป็นขั้นตอนที่นำไปสู่พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเข้าใจ การนำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมินผล

.
Tacit Knowledge
.
...........ตอบ คือ ความรู้ที่ไม่ปรากฎชัดแจ้ง เป็นความรู้ที่ไม่สามารถเขียนหรืออธิบายได้ การถ่ายโอนความรู้ประเภทนี้ทำได้ยาก จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้จากการกระทำ ฝึกฝน (อยู่ในสมองคน เชื่อมโยงกับประสบการณ์ ความเชื่อ ค่านิยม ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ทั้งหมด)

.
Explicit Knowledge

............ตอบ คือ ความรู้ที่ปรากฎชัดแจ้ง เป็นความรู้ที่สามารถเขียนหรืออธิบายออกมาเป็นตัวอักษร ฟังก์ชั่นหรือสมการได้ (อยู่ในตำรา เอกสาร วารสาร คู่มือ คำอธิบาย วีซีดี คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ฐานข้อมูล)


อธิบายรูปภาพ
.
.....................ความรู้ที่เกิดขึ้นเกิดจากการพัฒนาการเรียนรู้ที่มีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้ปฏิบัติงาน กระบวนการปรับเปลี่ยนและสร้างความรู้แบ่งออกได้เป็น 4 ลักษณะดังนี้



................ตอบ

................1. Socialization เป็นขั้นตอนแรกในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการสร้าง Tacit Knowledge จาก Tacit Knowledge ของผู้ร่วมงานโดยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงที่แต่ละคนมีอยู่
.
................2. Externalization เป็นขั้นตอนที่สองในการสร้างและแบ่งปันความรู้จากสิ่งที่มีอยู่และเผยแพร่ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นการแปลงความรู้จาก Tacit Knowledge เป็น Explicit Knowledge
.
................3. Combination เป็นขั้นตอนที่สามในการแปลงความรู้ขั้นต้น เพื่อการสร้าง Explicit Knowledge จาก Explicit Knowledge ที่ได้เรียนรู้ เพื่อการสร้างเป็นความรู้ประเภท Explicit Knowledge ใหม่ ๆ
.
................4. Internalization เป็นขั้นตอนที่สี่และขั้นตอนสุดท้ายในการแปลงความรู้จาก Explicit Knowledge กลับสู่ Tacit Knowledge ซึ่งจะนำความรู้ที่เรียนมาใช้ในการปฏิบัติงานหรือใช้ในชีวิตประจำวัน


ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ ด้านการบัญชี


ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี

...............ระบบสารสนเทศด้านการบัญชีจะมีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วน คือ
...............1. ระบบบัญชีการเงิน (Financial Accounting System) บัญชีการเงินเป็นการบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นใน รูป ตัวเงิน จัดหมวด หมู่รายการต่างๆ สรุปผลและตีความหมายในงบการเงิน ได้แก่ งบกำไรขาดทุน งบดุล และงบกระแส เงินสด โดยมี วัตถุ ประสงค์หลัก คือ นำเสนอสารสนเทศแก่ผู้ใช้และผู้ที่สนใจข้อมูลทางการเงินขององค์การ เช่น นักลงทุน และ เจ้าหนี้ นอกจากนี้ยัง จัดเตรียมสารสนเทศในการตัดสินใจของผู้บริหาร ซึ่งนักบัญชีสามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการประมวลข้อมูล โดยจด บันทึกลงในสื่อต่างๆ เช่น เทป หรือจานแม่เหล็ก เพื่อรอเวลาสำหรับทำการประมวล และแสดงผลข้อมูลตามต้องการ
...............2. ระบบบัญชีบริหาร (Managerial Accounting System) บัญชีบริหารเป็นการนำเสนอข้อมูลทางการเงินแก่ ผู้บริหาร เพื่อใช้ในการ ตัดสินใจทางธุรกิจ ระบบบัญชีจะประกอบด้วย บัญชีต้นทุน การงบประมาณ และการศึกษาระบบ โดยมีลักษณะสำคัญคือ
..............- ให้ความสำคัญกับการจัดการสารสนเทศทางการบัญชีแก่ผู้ใช้ภายในองค์การ
..............- ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในอนาคตของธุรกิจ
..............- ไม่ต้องจัดทำสารสนเทศตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
..............- มีข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน
..............- มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน


รูป แสดงระบบสารสนเทศด้านการบัญชี


...............AIS จะให้ความสำคัญกับการวบรวมข้อมูลและการติดต่อสื่อสารทางการเงิน ซึ่งเป็นกระบวนการติดต่อสื่อสาร มากกว่า การ วัดมูลค่า โดยที่ AIS จะแสดงภาพรวม จัดเก็บ จัดโครงสร้างประมวลข้อมูล ควบคุมความปลอดภัย และ การรายงานสารสนเทศ ทาง การบัญชี ปัจจุบันการดำเนินงานและการไหลเวียนของข้อมูลทาง การบัญชีมีความ ซับซ้อน มากขึ้น ทำให้นักบัญชีต้องกำหนด คุณ สมบัติของสารสนเทศด้านการ บัญขีให้สัมพันธ์กับการ ดำเนินงานของ องค์ฏาร ประการสำคัญ AIS และระบบสารสนเทศ เพื่อการ จัดการจะมีทั้งส่วนที่แยกออกจากกัน และเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน แต่ MIS จะให้ความสำคัญกับการจัดการ สารสนเทศสำหรับ การตัดสิน ใจของผู้บริหาร ขณะที่ AIS จะประมวล สารสนเทศ เฉพาะ สำหรับผู้ใช้งานทั้งภายในและภายนอกองค์การ เช่น นักลงทุน เจ้าหนี้ และผู้บริหาร เป็นต้น

ตัวอย่าง ระบบสารสนเทศทางด้านบัญชี

..............ระบบสารสนเทศการบัญชีโรงแรม (ในงานตรวจสอบรายได้ประจำวัน)
..............ธุรกิจการโรงแรม เป็นธุรกิจที่ต้องการผลตอบแทน หรือต้องการมุ่งหารายได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องจัดหารายได้หลายประเภท และมาจากหลายแหล่งภายในสถานประกอบการ หรือภายในโรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการให้บริการแทบทั้งสิ้น ดังนั้นการที่จะรวบรวมรายได้ของโรงแรมที่มีอยู่ให้ครบถ้วนและถูกต้อง จะต้องมีการจัดทำอย่างถูกต้อง นโยบายหนึ่งที่สามารถช่วยให้การตรวจสอบรายได้ประจำวันของโรงแรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่การนำเทคโนโลยีสารสนเทศของรายได้เข้ามาใช้
.............กิจการโรงแรมเป็นกิจการที่มีการดำเนินงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ทำให้รายได้ของโรงแรมที่เกิดขึ้นมีอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการตรวจสอบรายได้ของโรงแรมต้องทำอย่างรวดเร็ว และถูกต้องภายในวันทำการของโรงแรม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหนึ่งวันทำการของโรงแรมจะเริ่มนับจากเวลา 07.00 น. ของวันนี้ไปสิ้นสุดเวลา 07.00 น. ของวันถัดไป นั่นหมายความว่า การตรวจสอบรายได้ประจำวันจะต้องทำเสร็จก่อนเวลา 07.00 น. ของทุกวัน เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานในหน้าที่นี้ ได้แก่ ผู้ตรวจสอบบัญชีภาคค่ำ (NIGHT AUDITOR)
.............Night Auditor คือผู้ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบรายได้ประจำวันที่เกิดขึ้นในแผนกต่าง ๆว่าได้ถูกบันทึกโดยถูกต้องแล้วหรือไม่ ตรวจสอบจำนวนห้องพักแขกที่ขายได้ในแต่ละวันว่าได้ถูกบันทึกตรงกันหรือไม่ระหว่างการบันทึกข้อมูลของพนักงานต้อนรับ (Reception) กับรายงานการเข้าพักของแขกจากแผนกแม่บ้าน (House Keeping) จากนั้นแก้ไขปรับปรุงยอดรายได้วันต่อวันให้เรียบร้อย จะเห็นว่างานของ Night Auditor มีความยุ่งยากมากถ้าโรงแรมมีห้องพักจำนวนมาก ภัตตาคารต่าง ๆ ของโรงแรมที่เปิดให้บริการมีหลายภัตตาคาร รวมทั้งแผนกต่าง ๆที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น แผนกโทรศัพท์ (Telephone) แผนกซักรีด (Laundry) เครื่องดื่ม และอาหารว่างในห้องพัก (Mini Bar) ศูนย์สุขภาพ (Health Club or Fitness Center) ศูนย์บริการธุรกิจ (Business Center) ร้านขายของที่ระลึก และเบ็ดเตล็ด (Gift Shop) ร้านถ่ายรูป และอัดขยายภาพ (Photo Shop)งานของ Night Auditor จะง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นถ้านำ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์จะมีคำสั่งพิมพ์รายงานต่าง ๆเกี่ยวกับรายได้ทั้งหมดที่มีการบันทึกไว้โดยพนักงาน Front Cashier (เก็บเงินส่วนหน้า) รายงานรายได้ต่าง ๆ Night Auditor จะนำไปตรวจสอบกับสารสนเทศที่เกี่ยวของกับรายได้ต่อไป
..............ปัจจุบันได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์มาใช้ในธุรกิจโรงแรมกันมากขึ้นทำให้การควบคุมรายได้ของโรงแรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และแม่นยำยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่ารายได้ของโรงแรมจะถูกต้องครบถ้วนทั้งหมด จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม (นั่นหมายถึงอาจมีการบันทึกข้อมูลที่ผิดพลาดโดยไม่เจตนา หรือ เจตนาก็ตาม) ดังนั้นจะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะยอมรับข้อมูลที่บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องเป็นบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ที่ป้อนข้อมูลรายได้
..............โดยทั่วไปขั้นตอน และเทคนิคการจัดระบบสารสรเทศในงานตรวจสอบรายได้ประจำวันของโรงแรมต่าง ๆไม่แตกต่างกันเท่าไร ดังนั้นซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่นำเข้ามาใช้งานในส่วนของการควบคุม และตรวจสอบรายได้ประจำวันจะถูกพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน ทำให้เทคโนโลยีสารสรเทศในงานตรวจสอบไม่ยุ่งยากอีกต่อไป



วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ซอฟต์แวร์ระบบ (system software)

..........ซอฟต์แวร์ระบบ คือ ซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบ หน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น รับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ นำข้อมูลไปแสดงผลบนจอภาพหรือนำออกไปยังเครื่องพิมพ์ จัดการข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลบนหน่วยความจำรอง
..........เมื่อเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ทันทีที่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามโปรแกรมทันที โปรแกรมแรกที่สั่งคอมพิวเตอร์ทำงานนี้เป็นซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟต์แวร์ระบบอาจเก็บไว้ในรอม หรือในแผ่นจานแม่เหล็ก หากไม่มีซอฟต์แวร์ระบบ คอมพิวเตอร์จะทำงานไม่
..........ซอฟต์แวร์ระบบยังใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ และยังรวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาต่างๆ
....
..........หน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ระบบประกอบด้วย
.........1. ใช้ในการจัดการหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออก เช่น รับการกดแป้นต่าง ๆ บนแผงแป้นอักขระ ส่งรหัสตัวอักษรออกทางจอภาพหรือเครื่องพิมพ์ ติดต่อกับอุปกรณ์รับเข้า และส่งออกอื่น ๆ เช่น เมาส์ อุปกรณ์สังเคราะห์เสียง
.........2. ใช้ในการจัดการหน่วยความจำ เพื่อนำข้อมูลจากแผ่นบันทึกมาบรรจุยังหน่วยความจำหลัก หรือในทำนองกลับกัน คือนำข้อมูลจากหน่วยความจำหลักมาเก็บไว้ในแผ่นบันทึก
.........3. ใช้เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น การขอดูรายการสารบบในแผ่นบันทึก การทำสำเนาแฟ้มข้อมูล
..
..........ซอฟต์แวร์ระบบพื้นฐานที่เห็นกันทั่วไป แบ่งออกเป็น
..........1. ระบบปฏิบัติการ
.......... ...ระบบปฏิบัติการ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า โอเอส (Operating System : OS) เป็นซอฟต์แวร์ใช้ในการดูแลระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต้องมีซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการนี้ ระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กันมากและเป็นที่รู้จักกันดีเช่นดอส (Disk Operating System : DOS) วินโดวส์ (Windows) โอเอสทู (OS/2) ยูนิกซ์ (UNIX)
.............1) ดอส เป็นซอฟต์แวร์จัดระบบงานที่พัฒนามานานแล้ว การใช้งานจึงใช้คำสั่งเป็นตัวอักษร ดอสเป็นซอฟต์แวร์ที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ใช้ไมโครคอมพิวเตอร์
.............2) วินโดวส์ เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาต่อจากดอส เพื่อเน้นการใช้งานที่ง่ายขึ้น สามารถทำงานหลายงานพร้อมกันได้ โดยงานแต่ละงานจะอยู่ในกรอบช่องหน้าต่างที่แสดงผลบนจอภาพ การใช้งานเน้นรูปแบบกราฟิก ผู้ใช้งานสามารถใช้เมาส์เลื่อนตัวชี้ตำแหน่งเพื่อเลือกตำแหน่งที่ปรากฏบนจอภาพ ทำให้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ง่าย วินโดวส์จึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน
.............3) โอเอสทู เป็นระบบปฏิบัติการแบบเดียวกับวินโดว์ส แต่บริษัทผู้พัฒนาคือ บริษัทไอบีเอ็ม เป็นระบบปฏิบัติการที่ให้ผู้ใช้สามารถใช้ทำงานได้หลายงานพร้อมกัน และการใช้งานก็เป็นแบบกราฟิกเช่นเดียวกับวินโดวส์
.............4) ยูนิกซ์ เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนามาตั้งแต่ครั้งใช้กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ระบบปฎิบัติการยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถใช้งานได้หลายงานพร้อมกัน และทำงานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ยูนิกซ์จึงใช้ได้กับเครื่องที่เชื่อมโยงและต่อกับเครื่อปลายทางได้หลายเครื่องพร้อมกัน ระบบปฏิบัติการยังมีอีกมาก โดยเฉพาะระบบปฏิบัติการที่ใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกันเป็นระบบ เช่น ระบบปฏิบัติการเน็ตแวร์ วินโดว์สเอ็น
...
..........2. ตัวแปลภาษา
.............ในการพัฒนาซอฟต์แวร์จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาระดับสูง เพื่อแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง ภาษาระดับสูงมีหลายภาษา ภาษาระดับสูงเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เขียนโปรแกรมเขียนชุดคำสั่งได้ง่าย เข้าใจได้ ตลอดจนถึงสามารถปรับปรุงแก้ไขซอฟต์แวร์ในภายหลังได้ ภาษาระดับสูงที่พัฒนาขึ้นมาทุกภาษาจะต้องมีตัวแปลภาษาสำหรับแปลภาษา ภาษาระดับสูงซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมกันมากในปัจจุบัน เช่น ภาษาปาสคาล ภาษาเบสิก ภาษาซี และภาษาโลโก
.............1) ภาษาปาสคาล เป็นภาษาสั่งงานคอมพิวเตอร์ที่มีรูปแบบเป็นโครงสร้าง เขียนสั่งงานคอมพิวเตอร์เป็นกระบวนความ ผู้เขียนสามารถแบ่งแยกงานออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วมารวมกันเป็นโปรแกรมขนาดใหญ่ได้
.............2) ภาษาเบสิก เป็นภาษาที่มีรูปแบบคำสั่งไม่ยุ่งยาก สามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย มีรูปแบบคำสั่งพื้นฐานที่สามารถนำมาเขียนเรียงต่อกันเป็นโปรแกรมได้
.............3) ภาษาซี เป็นภาษาที่เหมาะสำหรับใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ภาษาซีเป็นภาษาที่มีโครงสร้างคล่องตัวสำหรับการเขียนโปรแกรมหรือให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ
.............4) ภาษาโลโก เป็นภาษาที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้และเข้าใจหลักการโปรแกรมภาษาโลโกได้รับการพัฒนาสำหรับเด็ก
..........นอกจากภาษาที่กล่าวถึงแล้ว ยังมีภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอีกมากมายหลายภาษา เช่น ภาษาฟอร์แทรน ภาษาโคบอล ภาษาอาร์พีจ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หน้าที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชนิดต่างๆ

หน้าที่ของ CPU


1. อ่านและแปลคำสั่งที่เขียนไว้ในโปรแกรม
2. ประมวลผลตามคำสั่งที่เขียนไว้ในโปรแกรม
3. รับส่งข้อมูลโดยติดต่อกับหน่วยความจำภายในเครื่อง
4. ติดต่อรับส่งข้อมูลกับผู้ใช้ โดยผ่านหน่วยนำข้อมูลเข้า/ออก
5. ย้ายข้อมูลและคำสั่งจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่ง


หน้าที่ของ RAM


ทำหน้าที่เก็บชุดคำสั่งและข้อมูลที่ระบบคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าข้อมูล (Input) หรือ การนำออกข้อมูล ข้อมูลในแรมจะหายไปทันที เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ถูกปิดลง เนื่องจากหน่วยความจำชนิดนี้ จะเก็บข้อมูลได้เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้น


หน้าที่ของ ROM


เก็บโปรแกรมคำสั่งเริ่มต้นในการบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำการตรวจสอบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทุกระบบ ถ้าพบข้อผิดพลาดจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบ


หน้าที่ของ HDD


หน้าที่โดยตรงของ HDD คือ การเก็บสำรองข้อมูลสำคัญๆ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ Application Software ต่างๆ และข้อมูลส่วนบุคคลที่บันทึกลงใน HDD


หน้าที่ของ Mother broad


ทำหน้าที่ประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าด้วยกัน ได้แก่ CPU , Memory , Slot รวมทั้งการ์ดเสริมต่าง ๆ

หน้าที่ของ Bios

1. ตรวจสอบอุปกรณ์ หลักของเครื่องคอมพิวเตอร์ 2. กำหนดค่าเริ่มต้นของอุปกรณ์บางชนิด เช่น การ์ดจอหรือการ์ดเสียง ที่ติดตั้งเข้ามาในเครื่องโดยใช้ระบบPlug and Play เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านี้สามารถทำงานร่วมกันได้ 3. แสดงรายงานผลการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ในเครื่อง 4. ค้นหา และโหลดโปรแกรมสำหรับบู๊ตจากไดร์ฟ C หรือไดร์ฟที่บู๊ตได้เพื่อให้โปรแกรมดังกล่าวโหลดระบบปฏิบัติการขึ้นมาทำงาน

หน้าที่ของ Head sink

ระบายความร้อนออกจากตัวอุปกรณ์ ชนิดต่างๆ เช่น CPU และชิปเซ็ท รวมทั้งอุปกรณ์อิเลคทรอนิคอื่นๆ

หน้าที่ของ VGA card

ทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณ digital ให้เป็นสัญญาณภาพ โดยมี Chip เป็นตัวหลักในการประมวลการแปลงสัญญาณ

หน้าที่ของ Power supply

ทำหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้

ความแตกต่างระหว่าง Serial port กับ parallel port

Parallel Port หรือ พอร์ตขนาน( LTP Port หรือ Printer Port ) เป็นมาตรฐานในการรับส่งข้อมูล มีจำนวนขา 25 Pin ที่มาของคำว่า parallel มาจากการรับส่งข้อมูลในลักษณะขนาน 8 bit(1 byte)ใน 1 ครั้ง ในระยะแรกเราใช้พอร์ตขนานในการส่งข้อมูลในการพิมพ์(Unidirectional Port) สามารถรับข้อมูลได้เพียง 4 bit มีอัตราการรับข้อมูลที่ 150 KB/s โดยสายพอร์ตขนานมีความยาวได้ถึง 3 - 4.5 เมตร แต่เพื่อประสิทธิภาพและความเร็วที่ดี ไม่ควรยาวเกิน 2 เมตร
Serial Port หรือ พอร์ตอนุกรม( COM Port หรือ RS-232C Port ) เป็นมาตรฐานในการรับส่งข้อมูล มีจำนวนขา 9 Pin อัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่ 115 KB/s สามารถสื่อสารได้ไกลกว่า และปรับเปลี่ยนได้มากกว่าพอร์ตขนาน โดยสายพอร์ตอนุกรมมีความยาวได้ถึง 15 เมตร ที่มาของคำว่า serial มาจากการส่งผ่าน bit เป็นแบบอนุกรม 1 bit ใน 1 ครั้ง โดยใช้กับอุปกรณ์สื่อสารเช่น Mouse , Modem , Serial Printer ,Digital Camera

นางสาวภัทรวดี พุทธิ

รหัส 49043494349

sec.02 (เรียนวันจันทร์บ่าย)

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด แบบผสม(Hybrid Network)

1. การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด แบบผสม(Hybird Network) หมายถึง

-เชื่อมต่อที่ผสมผสานเครือข่ายย่อยๆ หลายส่วนมารวมเข้าด้วยกัน เช่น นำเอาเครือข่ายระบบ Bus, ระบบ Ring และ ระบบ Star มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับบางหน่วยงานที่มีเครือข่ายเก่าและใหม่ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งระบบ Hybrid Network นี้จะมีโครงสร้างแบบ Hierarchical หรือ Tre ที่มีลำดับชั้นในการทำงานด้วยกัน คือ จะมีเครือ ข่ายคอมพิวเตอร์ย่อยหลายๆ เครือข่ายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานเครือข่ายบริเวณกว้าง เป็นตัวอย่างเครือข่ายผสมที่พบเห็นกันมากที่สุด เครือข่ายแบบนี้จะเชื่อมต่อเครือข่าย เล็ก-ใหญ่หลากหลาย แบบเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายเดียวซึ่งเครือข่ายที่ถูกเชื่อมต่ออาจจะอยู่ห่างกันคนละจังหวัดหรืออาจจะอยู่คน ละประเทศก็เป็นได้



2. หน้าที่การทำงาน

-เชื่อมต่อผสมผสานเครือข่ายย่อยๆ หลายส่วนมารวมเข้าด้วยกัน เช่น นำเอาเครือข่ายระบบ Bus, ระบบ Ring และ ระบบ Star มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับบางหน่วยงานที่มีเครือข่ายเก่าและใหม่ให้สามารถทำงานร่วมกันได้

3. อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน

-โมเด็ม (Modem)ฮับ หรือ รีพีทเตอร์ (Hub, Repeater) เป็นอุปกรณ์ที่ทวน และขยายสัญญาณ เพื่อส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ให้ได้ระยะทางที่ยาวไกลขึ้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลก่อนและหลัง การรับ-ส่ง และไม่มีการใช้ซอฟท์แวร์ใดๆ มาเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ชนิดนี้ การติดตั้งจึงทำได้ง่าย ข้อเสียคือ ความเร็วในการส่งข้อมูล จะเฉลี่ยลดลงเท่ากันทุกเครื่อง เมื่อมีคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อมากขึ้น

-สวิทช์ หรือ บริดจ์ (Switch, Bridge)
เป็นอุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อ เครือข่ายท้องถิ่น หรือ แลน (LAN) ประเภทเดียวกัน ใช้โปรโตคอลเดียวกัน สองวงเข้าด้วยกัน เช่น ใช้เชื่อมต่อ อีเธอร์เน็ตแลน (Ethernet LAN) หรือ โทเคนริงก์แลน (Token Ring LAN) ทั้งนี้ สวิทช์ หรือ บริดจ์ จะมีความสามารถในการเชื่อมต่อ ฮาร์ดแวร์ และตรวจสอบข้อผิดพลาด ของการส่งข้อมูลได้ด้วย ความเร็วในการส่งข้อมูล ก็มิได้ลดลง และติดตั้งง่าย

-เร้าเตอร์ (Router)
เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานคล้าย สวิทช์ แต่จะสามารถเชื่อมต่อ ระบบที่ใช้สื่อ หรือสายสัญญาณต่างชนิด กันได้ เช่น เชื่อมต่อ อีเธอร์เน็ตแลน (Ethernet LAN) ที่ส่งข้อมูลแบบ ยูทีพี (UTP: Unshield Twisted Pair) เข้ากับ อีเธอร์เน็ตอีกเครือข่าย แต่ใช้สายแบบโคแอ็กเชียล (Coaxial cable) ได้ นอกจากนี้ยังช่วยเลือก หรือกำหนดเส้นทางที่จะส่งข้อมูลผ่าน และแปลงข้อมูลให้เหมาะสมกับการนำส่ง แน่นอนว่าการติดตั้งย่อมยุ่งยากมากขึ้น

-เกทเวย์ (Gateway)
เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถสูงสุด ในการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยไม่มีขีดจำกัด ทั้งระหว่างเครือข่ายต่างระบบ หรือแม้กระทั่งโปรโตคอล จะแตกต่างกันออกไป เกทเวย์ จะแปลงโปรโตคอล ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ต่างชนิดกัน จัดเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพง และติดตั้งใช้งานยุ่งยาก เกตเวย์บางตัว จะรวมคุณสมบัติในการเป็น เร้าเตอร์ ด้วยในตัว หรือแม้กระทั่ง อาจรวมเอาฟังก์ชั่นการทำงาน ด้านการรักษาความปลอดภัย ที่เรียกว่า ไฟร์วอลล์ (Firewall) เข้าไว้ด้วย

4. การทำงานยังไง

- เป็นเครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN) เป็นตัวอย่างเครือข่ายผสมที่พบเห็นกันมากที่สุด เครือข่ายแบบนี้จะเชื่อมต่อเครือข่ายเล็ก-ใหญ่หลากหลายเผ่าพันธุ์เข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายเดียว ซึ่งเครือข่ายที่ถูกเชื่อมต่ออาจจะอยู่ห่างกันคนละจังหวัด หรืออาจจะอยู่คนละประเทศก็เป็นได้
ตัวอย่าง เช่น บริษัทที่มีสาขาแยกย่อยตามจังหวัดต่างๆ สาขาหนึ่งอาจจะใช้เครือข่ายแบบดาว อีกสาขาอาจจะใช้เครือข่ายแบบบัส การเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกันอาจจะใช้สื่อกลางเป็นไมโครเวฟ หรือดาวเทียม เป็นต้น

5. ข้อดีข้อเสียของแบบผสม(Hybrid Network)

-ข้อดี
1. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวางสายเคเบิลมากนัก
2. สามารถขยายระบบได้ง่าย
3. เสียค่าใช้จ่ายน้อย

-ข้อเสีย
1. อาจเกิดข้อผิดพลาดง่าย เนื่องจากทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อยู่บนสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ดังนั้นหากมีการขาดที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ก็จะทำให้เครื่องอื่นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดในระบบไม่สามารถใช้งานได้ตามไปด้วย
2. การตรวจหาโหนดเสีย ทำได้ยากเนื่องจากขณะใดขณะหนึ่งจะมีคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวเท่านั้นที่สามารถส่งข้อความออกมาบนสายสัญญาณ ดังนั้นถ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ อาจทำให้เกิดการคับคั่งของเนตเวิร์ก ซึ่งจะทำให้ระบบช้าลงได้


6. ข้อคิดเห็นของเรา ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการทำไมเราถึงเลือกการเชื่อมต่อจุดต่อจุดแบบผสม(Hybird)และไม่เลือกเพราะอะไร

-เหตุผลที่เลือกเพราะ แบบผสมนั้นได้เอาการเชื่อมต่อหลายๆแบบมารวมกันซึ่งทำให้เกิดประสิทธิภาพสุงสูดในการทำงาน เครือข่ายแบบนี้จะเชื่อมต่อเครือข่าย เล็ก-ใหญ่หลากหลาย แบบเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายเดียวซึ่งเครือข่ายที่ถูกเชื่อมต่ออาจจะอยู่ห่างกันคนละจังหวัดหรืออาจจะอยู่คนละประเทศก็เป็นได้

-เหตุผลที่ไม่เลือกเพราะ อาจเกิดข้อผิดพลาดง่าย เนื่องจากทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อยู่บนสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ดังนั้นหากมีการขาดที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ก็จะทำให้เครื่องอื่นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดในระบบไม่สามารถใช้งานได้ตามไปด้วย

7. แหล่งอ้างอิง

-http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type2/tech04/24/n_214.html

-http://www.med.cmu.ac.th/eiu/informatics/COMM/Life/Net%20work/pasom.htm

-http://www.tice.ac.th/Online/Online2-2549/bussiness/cai1/picture/page1.htm

น.ส.ภัทรวดี พุทธิ

49043494349

sec.03